นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างญัตติขออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 อยู่ที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ แล้ว โดยได้ด้นัดหมายที่จะยื่นให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) เวลา 10.00 น.
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นการอภิปรายเพื่อซักถามรัฐมนตรีถึงเรื่องต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ ซึ่งต้องย้อนไปถึงตอนที่รัฐบาลแถลงนโยบายที่มีการแถลงใหญ่ แต่อาจจะไม่ได้ทำอะไรเลย บางเรื่องต้องบอกว่าอาจไม่จำเป็นต้องมีงบฯ ก็สามารถเริ่มดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ แม้จะไม่ได้มีการทุจริตอะไร แต่มันคือการที่ยังไม่ได้เริ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
"หากเราอยากเห็นภาพว่าใน 4 ปี ประเทศจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ผมคิดว่าประมาณ 7-9 เดือน ก็ต้องเห็นเป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้ว หากเรื่องไหนที่พูดแล้วยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมก็คิดว่าเป็นการทวงถาม หรือบางนโยบายที่พูดไว้อีกแบบ แต่ทิศทางอาจจะไปอีกแบบ เราก็ต้องทวงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงแล้วจะเป็นไปตามที่เคยแถลงไว้หรือไม่ เช่น เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ขณะนี้เป็นนโยบายที่คิดไป ทำไปหรือไม่ หรือเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ที่หลายอย่างไม่จำเป็นต้องใช้งบ หรือแม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยพูดบ่อยมาก และคิดว่าน่าจะเป็นนโนบายที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ด้วยซ้ำ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นความชัดเจน ไม่ตรงกับที่เคยพูดไว้" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาในการอภิปรายได้ แต่คิดว่าไม่เป็นเรื่องยากเพราะเคยผ่านการอภิปรายงบประมาณและการแถลงนโยบายของรัฐบาลมาแล้ว ซึ่งจะต้องมีการจัดหมวดหมู่ในประเด็นที่จะอภิปรายอีกครั้ง เพื่อให้มีความสอดคล้องกัน
สำหรับพรรคก้าวไกลได้จัดหมวดหมู่และเห็นภาพมากขึ้น แต่ก็มีผู้เสนอหัวข้อจำนวนมากเหมือนเดิม เราคงต้องมาคัดอีกครั้งว่าจุดที่เป็นไฮไลท์จะพูดเรื่องอะไรบ้างตามเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยไปแล้ว และเป็นหน้าที่ที่จะรวบรวมประเด็นกันอีกครั้ง
ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นมีอยู่ในหัวข้อที่วางเอาไว้ ส่วนจะเป็นเจ้าภาพหลักเองหรือไม่นั้น ตนคิดว่าในแต่ละเรื่องอาจไม่ได้มีใครเป็นเจ้าภาพโดยตรง เพียงแต่เราต้องคุยกันเพื่อไม่ให้ซ้ำกัน โดยหวังว่าจะเป็นการสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลทำอะไรบางอย่างที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน หรืออะไรที่ยังไม่ได้ทำก็จะได้มีการเคลื่อนไหว และทำตามที่สัญญาไว้บ้างหรืออะไรที่ผิดทางมีกลิ่นแปลกๆ ก็จะได้หยุดการกระทำ
กรณีที่ฝ่ายค้านถูกมองว่าเกี้ยเซียะกับรัฐบาลนั้น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่ามองกันมุมไหน ในมุมของตนที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน เช่น เรื่องการตั้งกระทู้ถามของพรรคก้าวไกลก็มีการคัดเลือกกันอย่างเต็มที่ อีกอย่างที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากที่ผ่านมาคือเมื่อเราได้กระทู้มากขึ้น เราก็อยากถามกระทู้สดที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อน ปากท้องประชาชน เราอยากให้ความสำคัญในหลายๆเรื่อง ส่วนประเด็นทางการเมืองหากไม่ได้แหลมคมจริงๆ เราก็คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เวทีการถามกระทู้สด เราสามารถใช้เวทีอื่นในการตรวจสอบได้ หากมองดีๆ การออกสื่อของพรรคก้าวไกล คือการตรวจสอบของรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา
"ผมคิดว่าการอภิปราย 152 พรรคก้าวไกลอภิปรายอยู่ทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะนอกสภาหรือในสภา เราก็พูดเรื่องนี้อยู่ทุกสัปดาห์ หลายประเด็นสื่อก็เอาจับไปเป็นเรื่องใหญ่ด้วยซ้ำ" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว