พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม ร่วมกันเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล แบบไม่ลงมติ โดยถือว่าเป็นการตรวจการบ้านครั้งสำคัญ พร้อมคาดหวังการอภิปรายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาส
นายชัยธวัช กล่าวว่า การบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของคนที่เคยให้ไว้ต่อสภาฯ ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้ขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตรภาคธุรกิจ และภาคประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ไขความปัญหาความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพโปร่งใส และที่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ล้วนขาดยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ยังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัฐเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเกิดการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรม กลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาคเท่าเทียมทางกฎหมายและการเมือง
อีกทั้งไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน มีความผิดพลาดไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้
"หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมายไร้จริยธรรม และไร้วุฒิภาวะ ต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่พี่น้องประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อ ครม.ในเรื่องดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน สส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ร่วมกันลงชื่อในวันนี้" ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุ
เมื่อถามถึงประเด็นที่จะอภิปราย นายชัยธวัช ตอบเพียงว่า "รอฟัง ไม่เฉลยการบ้าน"
ส่วนการอภิปรายจะรวมเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า นโยบายเรือธงต่างๆ รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องอภิปรายแน่นอน ส่วนจะรวมประเด็นกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น ขอให้รอฟัง
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับญัตติว่า จากนี้จะนำญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ไปตรวจสอบรายชื่อ ก่อนจะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน ทั้งนี้ สภาฯ มีเวลาจำกัดเพราะจะปิดสมัยประชุมวันที่ 10 เม.ย.