นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เชื่อว่า การเดินทางไปเชียงใหม่ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นการลงพื้นที่หรือเป็นสงครามแย่งชิงพื้นที่แต่อย่างใด แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่จากประเทศไปนานหลายปี ที่ต้องการเดินทางกลับไปจังหวัดที่เป็นบ้านเกิด และไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของบ้านเมือง
"ถ้าผมพลัดที่อยู่ไปเกือบ 20 ปี ที่แรกที่ผมไป ก็จะเป็น จ.นครศรีธรรมราช ผมเห็นนายกฯ ทักษิณ มีโปรแกรมจะไปไหว้สักการะครูบาศรีวิชัย ที่พระธาตุดอยสุเทพ ผมก็เหมือนกัน ถ้าผมกลับ จ.นครศรีธรรมราช ผมก็ไปกราบพระบรมธาตุเจดีย์" นายณัฐวุฒิ กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้คงเร็วเกินไปที่จะวิเคราะห์หรือตีความกันทางการเมือง ซึ่งต้องดูว่าบทบาทของนายทักษิณ หลังจากนี้ ที่สามารถเคลื่อนไหวโดยอิสระ พ้นจากเงื่อนไขต่างๆ แล้วจะเป็นอย่างไร นั่นแหละถึงจะ ดูเป็นมิติการเมืองได้มากกว่า และชัดกว่า
ส่วนความเป็นไปได้ที่นายทักษิณ จะกลับมามีบทบาททางการเมืองหลังจากพ้นโทษ นายณัฐวุฒิ เชื่อว่า นายทักษิณ เป็นคนการเมือง การจะให้วางมือทางการเมืองไปเลย คงไม่ได้ และการที่นายทักษิณ เป็นบุคคลระดับโลก จึงสมควรต้องดึงศักยภาพออกมาใช้ เพราะเป็นผู้ที่มีต้นทุนในเรื่องความน่าเชื่อถือ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งแวดวงการเมือง แวดวงธุรกิจ ซึ่งประเทศไทยต้องการผู้ที่มีศักยภาพเช่นนี้
"นายกฯ ทักษิณสำหรับผม เป็นคนระดับโลก สังคมไทยควรจะหาวิธีการดึงเอาศักยภาพของท่านมาใช้ ผมว่าในเวทีนานาชาติ นายกทักษิณ น่าจะเป็นคนไทยที่มีเครือข่ายสายสัมพันธ์ มีศักยภาพ มีต้นทุนทางความเชื่อถือ เชื่อมั่น การคบหากับคนสำคัญๆ ทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ หรือสังคมอยู่มาก และวันนี้ประเทศไทยต้องการศักยภาพแบบนี้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความต้องให้นายทักษิณ เข้ามามีตำแหน่ง เข้ามามีบทบาททางการเมือง เพียงแต่รู้สึกเสียดาย หากจะไม่ให้ผู้ที่มีศักยภาพสูงเช่นนี้เข้ามาช่วยเหลือบ้านเมือง