นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงหลังนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้เสนอญัตติฯ แถลงต่อที่ประชุมสภาฯ ยืนยันว่า งบประมาณปี 67 ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากสภาฯ ไม่ได้นำมาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ช่วยประชาชน แต่งบประมาณเป็นขีดจำกัดทำให้เราไม่สามารถผลักดันนโยบายได้เต็มที่ เพราะนโยบายหลายอย่าง เช่น การพักหนี้เกษตรกร เรื่องวีซ่าฟรี เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ รวมถึงเรื่องลดค่าใช้จ่าย เรื่องราคาสินค้าเกษตร
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เป็นเรื่องความจำเป็นที่ต้องประชุมในกลุ่มอาเซียนหลายครั้ง และเป็นธรรมเนียมที่ผู้นำใหม่ต้องไปเยือน เป็นเรื่องที่ตนตระหนักดีว่า การใช้เวลาการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรับทราบถึงข้อกังวล แต่สามารถใช้เทคโนโลยีในการบริหารราชการ และติดต่อกับคณะรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการบริหารประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเจอตัวต่อตัว
ส่วนการลงทุนจากต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมามีการลงทุนมาบ้าง หากเรื่องใดเป็นเรื่องดีก็สานต่อไม่ได้ปัดตกทุกเรื่อง และการลงทุนที่มีมูลค่าแสนล้านบาท ใช้เวลามากกว่า 7 เดือนในการตกลงทางธุรกิจ โดยในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ผู้แทนการค้า และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จะแถลงความคืบหน้าในการไปเจรจาติดต่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย ทำให้รายได้ระยะยาวของประชาชนยกระดับขึ้นมาได้
สำหรับเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ถือเป็นนโยบายใหญ่ และได้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งวันนี้จะมีการแถลงไทม์ไลน์ของนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การแก้หนี้นอกระบบยังไม่ถูกแก้อย่างบูรณาการ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญ มีการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เฉพาะฝ่ายปกครอง แต่ให้ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องกระแสเงินสด การรีไฟแนนซ์ มีความคืบหน้า ตนรับฟัง และเห็นด้วยที่ปัญหาไม่ได้ถูกแก้อย่างบูรณาการ แต่อย่างน้อย 7เดือนก็มีความคืบหน้าเรื่องการบริหารจัดการ