นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลแถลงยืนยันดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเดือน ต.ค. ปีนี้ โดยแจกเงินคนละ 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคนนั้น หากรัฐบาลจะหาแหล่งเงินด้วยวิธีการออก พ.ร.ก. หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ก็อาจไม่เข้าเงื่อนไข เพราะสภาวะเศรษฐกิจของไทยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขในการเสนอ พ.ร.บ.เงินกู้
ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตในเดือนต.ค.ปีนี้จริงตามไทม์ไลน์ที่ออกมาล่าสุด ก็คาดว่ารัฐบาลคงใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2568 ที่จะเริ่มมีผลในเดือนต.ค.67 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีงบประมาณ 68 พอดี
อย่างไรก็ดี มองว่า หากรัฐบาลจะนำงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตทั้ง 500,000 ล้านบาท ไปใส่ไว้ในงบประมาณรายจ่ายปี 2568 เพียงปีเดียว ก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเงินจำนวนมากขนาดนี้ คงจะใส่ในงบประมาณรายจ่ายปีเดียวไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะทำได้ คือ ต้องทยอยนำวงเงิน 500,000 ล้านบาทบางส่วน ไปแบ่งใส่ในงบรายจ่าย ปี 2568 งบปี 2569 และงบปี 2570 ซึ่งเป็นเวลาที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในปี 2570 พอดี
"ผมจะตามดูร่างงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 ที่จะเข้าสภาราวเดือน มิ.ย.ปีนี้ ผมตั้งความหวังว่ารัฐบาลจะทำได้ หลังจากเลื่อนมาหลายครั้ง และผมขอให้ประชาชนทำใจไว้ว่า การรับเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากทำได้ ก็อาจจะไม่ได้รับทีเดียว 10,000 บาท และก็คงได้รับเงินไม่ครบ 50 ล้านคน" นายจุลพงศ์กล่าว