พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้อภิปรายชี้แจงถึงกระบวนการยุติธรรม กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลังถูกกล่าวหาว่าเป็นการดำเนินการแบบ 2 มาตรฐานว่า พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ปี 2560 ไม่ได้เป็นพระราชบัญญัติที่ออกโดยรัฐบาลชุดนี้ แต่ออกในยุคสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเป็นพระราชบัญญัติที่กรมราชทัณฑ์ รมว.ยุติธรรม และนายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจใดเลยในพระราชบัญญัติฉบับนี้ เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้เขียนเรื่องการบริหารโทษไว้ทุกขั้นตอน แทบไม่มีการให้ใช้ดุลพินิจแม้แต่เล็กน้อย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายทักษิณ ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเป็นรัฐบาลชุดที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรมว.พาณิชย์ บริหารประเทศร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในวันเดียวกันที่นายทักษิณกลับเข้ามาไทย ก็อนุญาตให้นายทักษิณ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 การที่นักโทษถูกควบคุมตัวที่โรงพยาบาล หักเป็นโทษจำคุกเท่ากัน ไม่ใช่หักวันแล้วต้องมาติดคุกเพิ่ม และการพักโทษ ยังถือว่าถูกลงโทษอยู่ เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ จึงอยากให้ฟังความรอบด้านและไม่อยากให้ใช้อคติในการอภิปราย
"ถ้าเป็นการกระทำในยุคของท่าน ท่านใช้คำพูดอีกแบบหนึ่ง พอเหตุการณ์ต่อเนื่องมาในยุคปัจจุบัน ท่านกล่าวว่าเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กฏกระทรวงที่ออกเมื่อปี 63 นายจุรินทร์ ก็ร่วมอยู่ในคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งการที่กล่าวหาว่า ติดคุกทิพย์ ถือว่าเป็นการกล่าวหาที่เลวร้ายมาก
ด้านนายจุริทร์ ได้ใช้สิทธิพาดพิงว่า แม้กฏหมายจะเกิดสมัยพล.อ.ประยุทธ์ แต่เมื่อถึงรัฐบาลนี้จะทำถูกทำผิดอย่างไรก็ได้แบบนั้นหรือไม่ ถ้าตรรกะแบบนี้ตรรกะวิบัติ และสิ่งที่ตนอภิปราย เป็นเรื่องที่จะเกิดในอนาคตที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลนี้เต็มร้อย ซึ่งหมายถึงการกำหนดระเบียบให้คนที่จะไปติดคุกที่บ้านได้ว่าจะรวมคดีคอร์รัปชันหรือไม่ เพราะถ้ารวมจะกลายเป็นว่า เป็นการส่งเสริมคอร์รัปชันมุมกลับขึ้น โดยฝีมือรัฐบาลนี้โดยตรง