นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอทิ้งท้ายไว้ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เนื่องจากเห็นว่าหลังจากรัฐบาลทำงานมาแล้ว 7 เดือน รัฐมนตรีคนไหนยังทำงานไม่บรรลุเป้าหมายก็ควรต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหน้าตาของ ครม.จะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร ก็ไม่มีผลกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคจะยังเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อไป
"อาจจะมีบางกระทรวง เริ่มเห็นว่าการผลักดันนโยบายมีความล่าช้า หรือบางครั้ง ก็ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีที่เข้ามาทำงานอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงนั้นมากนัก ดังนั้น กระทรวงไหนเข้าข่ายเกณฑ์แบบนี้ ก็ควรเป็นกระทรวงที่ต้องปรับในลำดับต้นๆ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจ" นายพริษฐ์ กล่าว
สำหรับการต่อยอดจากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมตินั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลต่างๆ ไหลเข้ามาที่พรรคอย่างต่อเนื่อง แต่คงต้องมาวิเคราะห์ว่าจะสามารถเปิดอภิปรายไม่วางใจได้หรือไม่ หากมีหลักฐานที่ทุจริตพอ ก็สามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายได้
โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกิจกรรมของพรรคในช่วงปิดสมัยประชุมว่า ได้เตรียมวางแผนไว้ 5 ส่วนงาน คือ
ส่วนงานที่ 1 คืองานสภาฯ โดยพรรคยังคงเดินหน้ายกร่างกฎหมายเตรียมไว้ เพื่อให้สามารถเสนอได้ทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างอีกประมาณ 10-20 ฉบับที่ตั้งใจจะทำให้เสร็จ เพื่อพร้อมจะยื่นเมื่อเปิดสมัยประชุม
ส่วนงานที่ 2 คืองานลงพื้นที่ โดยจะใช้ช่วงเวลาปิดสมัยประชุมเข้ารับฟังปัญหาของประชาชน โดยช่วงสงกรานต์ ก็จะมีอย่างน้อย 2 คณะ คณะแรกไปภาคเหนือ นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และแกนนำ รวมทั้งตน ส่วนคณะที่สองไปภาคอีสาน นำโดยนายพิธา
ส่วนงานที่ 3 คืองานเชิงประเด็น ซึ่งพรรคก้าวไกลได้แบ่งทีมเชิงประเด็นไว้ 15 ทีม เช่น ทีมก้าว Learn ดูแลเรื่องการศึกษา, ทีมก้าว Green ดูแลเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นช่วงปิดสมัยประชุมจะไปพบปะผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้ข้อเสนอเชิงนโยบายของพรรคมีความเฉียบคมมากขึ้น
ส่วนงานที่ 4 คือการเตรียมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เปิดรับสมัครผู้ที่แสดงความจำนงจะลงสมัครรับเลือกตั้ง อบจ.ไปแล้ว ใน 16 จังหวัด และมีการคัดเลือก เปิดตัวไปแล้ว 3 จังหวัด หลังจากนี้จะได้ทยอยเปิดตัว และล่าสุดเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งในส่วนของเทศบาลนครด้วย
ส่วนงานที่ 5 คือการเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรค ซึ่งขณะนี้ได้มีการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้ง่ายขึ้น โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้พรรคสามารถขยายสมาชิกใหม่ได้มากขึ้น