นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในส่วนของพรรค รทสช. เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี กับหัวหน้าพรรค รทสช. ต้องคุยกัน แต่ล่าสุดที่ได้หารือกับเลขาธิการพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ยืนยันว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหว ยังไม่มีการประสานมาจากนายกฯ ดังนั้น รัฐมนตรีทั้ง 4 คนของพรรคยังเป็นไปตามเดิม
ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไร ต้องรอนายกฯ ประสานมาที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครทสช. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค
นายอัครเดช กล่าวว่า 4 รัฐมนตรีในโควตาของรทสช. ทุกคนทำงานทุ่มเท เช่น นายพีระพันธุ์ มุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างพลังงานอย่างเป็นระบบ ปฏิรูปเพื่อสร้างความยั่งยืนคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน ขณะที่น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาการขนย้ายแคดเมียม ลงพื้นที่ทันทีที่เกิดเรื่อง พร้อมเข้ามาชี้แจงฝ่ายค้านในสภาฯ ส่วนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตนคิดว่าการปรับครม. เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่านายกฯ จะปรับในตำแหน่งรมว.พลังงาน เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับราคาพลังงานเฉพาะหน้าในระยะสั้น นายอัครเดช กล่าวว่า ราคาพลังงานเป็นที่น่ากังวลเพราะมาจากสงครามระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะควบคุมได้คือราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ
อย่างไรก็ดี ในเรื่องนี้นายพีระพันธุ์ กำลังดำเนินการอยู่ จะพยายามอย่างสุดความสามารถในการตรึงราคาน้ำมัน จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเรานำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ราคาน้ำมันดิบกับภาวะสงครามในต่างประเทศ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถไปกำหนดได้ สุดท้ายจะตรึงราคาน้ำมันได้ถึงเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เหล่านี้
สำหรับกระแสข่าวพรรครทสช. อาจจะถูกปรับครม. 2 ตำแหน่ง คือนายกฤษฎา รมช.คลัง และน.ส.พิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม ออก แล้วดึงนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นรมช.คลัง รวมถึงดึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค มาเป็นรมว.อุตสาหกรรมนั้น
นายอัครเดช กล่าวว่า ข่าวก็คือข่าว ถ้าเป็นจริงต้องฟังหัวหน้า และเลขาฯ พรรครทสช. และตนที่ได้รับมอบหมายมา โดยขอให้ฟัง 3 คนนี้ก็พอ ไปฟังมากก็เป็นข่าว และไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล รวมถึงพรรครทสช. ก็ขอให้สบายใจได้ ในส่วนของพรรครทสช. ยังไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องของการปรับครม. ครั้งนี้