น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แจงกรณีกล่าวปาฐกถาวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ไปต่อให้เต็ม 10" ว่า จริงๆ รัฐบาล และ ธปท. มีวัตถุประสงค์เป้าหมายร่วมกัน คือ ประชาชน ถ้าหากมีเป้าหมายร่วมกันจะสามารถทำงานจนทะลุเป้าหมายได้ ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงความเป็นอยู่ต้องเป็นเป้าหมายร่วมกัน
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ตนเป็นส่วนหนึ่งของพรรค ก็ต้องการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน การปาฐกถาในเวทีใหญ่ที่พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เช่น เรื่องสังคม เหตุการณ์ปัจจุบัน มีการเตรียมการก่อนอยู่แล้ว และต้องเตรียมคำตอบให้กับสื่อมวลชน
"การพูดครั้งนั้น อิ๊งมองว่าเป็นการพูดเพื่อสนับสนุนการผลักดันนโยบายของรัฐบาล มองว่าหากจะมีถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งรัฐบาล ธปท.ก็สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้มาโดยตลอด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติ" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมานั้น เนื่องจากนายทักษิณ มีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทย แม้ว่าจะไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานถึง 17 ปี แต่นายทักษิณ ก็ถือเป็นอดีตนายกฯ เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่ตนเชื่อว่ามีความห่วงใยบ้านเมืองอยู่เสมอ
"อะไรที่ช่วยได้ ก็ต้องช่วย เชื่อว่าคนไทยทุกคน ก็คิดแบบนี้เช่นกัน ว่าถ้ามีสิทธิช่วยได้ ก็จะช่วย คนละไม้คนละมือ" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
พร้อมระบุว่า ตั้งแต่สมัยเป็นนายกฯ นายทักษิณ ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด มีโอกาสที่ได้รู้จักทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อย รวมถึงทหารของเมียนมา จึงยังมีความสัมพันธ์ต่อกันอยู่ และเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ได้สร้างไว้ ฉะนั้นด้วยความเป็นห่วงประเทศ ถ้ามีการพูดคุยกันก็เป็นเพียงเพราะอยากมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศไทยเท่านั้น
ส่วนจะประสบผลสัมฤทธิ์มากน้อยขนาดไหนนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ