ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายคงเดชา ชัยรัตน์ ขอให้พิจารณาเพื่อวินิจฉัยพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายทักษิณ ชินวัตร
นายคงเดชา ในฐานะผู้ร้องระบุว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย ที่นำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. ทำให้คะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ได้มาจากเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
และการมีพฤติการณ์ยินยอมให้นายทักษิณ ชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ทำให้การใช้เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
และการกระทำของ ครม. ที่นำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่ขี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
การกระทำของนายเศรษฐา ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงอย่างถูกต้องครบถ้วนแก่ประชาชน กระทำการเป็นสื่อมวลชนประเภทสื่อออนไลน์ อันเป็นลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี และมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม
และการกระทำของนายทักษิณ ที่อาจเป็นการชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอันเป็นการช้สิทธิหรือเสรีภาพทางการเมืองเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ และยังไกลเกินกว่าเหตุที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 4 กระทำการใด ๆ ที่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำร้องเป็นเพียงการแสดงความเห็นต่างของผู้ร้องเท่านั้น จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย