นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ออกมาเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการลงคะแนนเลือก สว.ระดับอำเภอในรอบแรกก่อนเลือกไขว้ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้สมัคร สว.บางรายที่ได้ศูนย์คะแนนอาจเป็นกลุ่มคนที่สมัครเข้ามาโหวต สว. โดยรับจ้างให้ลงสมัคร ตนเชื่อว่า กกต.อำเภอต้องมีสำเนาคะแนนไว้ทุกขั้นตอนก่อนส่งให้ กกต.ส่วนกลาง แต่หากปฏิเสธไม่ให้ดูผลการลงคะแนนถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูล ไม่ต้องการให้ประชาชนตรวจสอบหรือไม่
"กมธ.ได้รับข้อมูลเป็นจำนวนมากต่อการเลือก สว.ระดับอำเภอที่พบว่ามีการขนคน เช่น ในจังหวัดทางภาคตะวันออกที่มีเจ้าของรีสอร์ทลงสมัคร สว.ได้เกณฑ์พนักงานลูกจ้างในรีสอร์ททั้งหมดให้ลงสมัคร ...นอกจากนั้นยังพบว่าในรอบไขว้พบมีคนที่ได้รับคะแนนเลือกสูงผิดปกติ ซึ่งสันนิษฐานได้ว่ามีกระบวนการจัดฮั้ว เพื่อให้เลือกคนที่ต้องการได้รับเลือกเป็นการเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม กกต.ต้องเปิดเผยผลคะแนนเลือกทุกอำเภอให้ประชาชนทราบทันที" นายสมชาย กล่าว
ขณะที่ทราบว่ามีผู้สมัคร สว.ได้ร้องเรียนการเลือกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กกต.ควรทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยใช้ผลคะแนนของผู้ที่ได้ศูนย์คะแนนเป็นตัวตั้ง และสอบย้อนไปว่า ใครใช้ ใครจ้างวาน ราคาเท่าไร และกันไว้เป็นพยาน อย่าปล่อยให้หลุดไปเลือกระดับจังหวัดเพราะจะเกิดความเสียหาย
พร้อมกันนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตถึงระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการเลือก สว. ซึ่งแก้ไขฉบับล่าสุดลงวันที่ 7 มิ.ย.67 ในข้อ 5 ซึ่งเพิ่มรายละเอียดว่าด้วยการเลื่อนบุคคลในบัญชีสำรองแทนผู้รับเลือกที่ได้คะแนน 1-10 แต่ไม่สามารถเป็น สว.ได้ เพราะขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม ถูกลบชื่อ หรือตาย หรือเพราะเหตุอื่น เพราะ กกต.กังวลในเรื่องของการทุจริตหรือไม่
"หาก กกต.เขียนระเบียบฯ เพื่อให้อำนาจตนเองเลื่อนบัญชีได้ แสดงว่า กกต.จะไม่สนใจตรวจทุจริตตั้งแต่ต้นหรือไม่ อีกทั้ง กกต.ควรเป็นหลัก ไม่ใช่ประกาศอะไรแล้วกลับมาแก้ไขเพื่อปิดช่องว่างเป็นห้วงๆ ทั้งที่ควรทำให้สุจริตตั้งแต่ต้น ในฐานะผมที่ติดตามเรื่องนี้ กรณีที่ กกต.แก้ระเบียบฯ ไปมานั้น เพราะเห็นช่องว่างการทุจริตใช่หรือไม่ ดังนั้นไม่ต้องไปไกลถึงการประกาศผล ขอให้ตรวจสอบเรื่องศูนย์คะแนนในระดับอำเภอ เพราะมีคนที่สมัครแต่ไม่เลือกตัวเองเพราะเหตุใด มีการว่าจ้างหรือไม่ มีคนที่อยู่ในอาชีพซึ่งมีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงตัวเองกลับสละเงิน 2,500 บาทเพื่อไปสมัคร ผมอยากให้ กกต.สอบผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น หากไม่ทำถือว่า กกต.การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่" นายสมชาย กล่าว
ส่วน กกต.จะเลื่อนการเลือก สว.ระดับจังหวัดออกไปก่อนเพื่อตรวจข้อเท็จจริงหรือไม่ก็แล้วแต่ กกต. เพราะ กกต.มีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ หากเดินหน้าแล้วผิดกฎหมาย กกต.ต้องรับผิดชอบ
นายสมชาย ย้ำว่า ไม่ต้องการให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นโมฆะ แต่หากเดินหน้าไประวังจะเป็นโมฆะ ตนเบื่อที่มีแต่คนพูดว่าสิ่งที่ทำนั้นเพราะต้องการอยู่ยาว แต่ข้อเท็จจริงคือ ต้องการ สว.ที่ดีมาทำหน้าที่แทน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้การเลือก สว.ได้ผ่านรอบแรกมาแล้ว จะเข้าสู่ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อที่จะให้ได้ สว. 200 คนในวันที่ 2 ก.ค.นี้ โดยส่วนตัวอยากให้มีการเลือก สว. เป็นไปด้วยความสำเร็จเรียบร้อยตามที่กกต.ตั้งใจและประกาศไว้ ปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับการฮั้วเลือก สว.นั้น เมื่อยังไม่มีคำร้องจะไปพูดล่วงหน้าก่อนไม่ได้ โดยการเลือก สว. ครั้งนี้เป็นการเลือกแบบใหม่ ที่มีหลายมุมทั้งแง่ดีและไม่ดี ต้องปล่อยให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และหวังเพียงว่าวันที่ 2 ก.ค.นี้ เราจะได้ สว. ชุดใหม่เข้ามา 200 คน แต่หากมีการร้องกติกาของ กกต.ก็มีแล้ว และยังมีสว.สำรองอีก 100 คน หากคนที่ถูกร้องเรียนมีปัญหาถูกสอย สว. สำรองก็เข้ามาได้เพราะมีถึง 100 คน
"เราอาจจะได้ สว. ที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์ กับประเทศชาติดีกว่าเดิมก็ได้ เรามองในแง่ดี แต่บางคนก็บอกไม่แน่ใจ กลัวพรรคการเมือง เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการหรือมีการล็อบบี้ เราไปห้ามไม่ได้ อยากจะขอร้องว่า เมื่อมีความตั้งใจ รูปแบบใหม่นี้เป็นไปด้วยดี คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว และคนที่อยากเป็น สว. ขอให้ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ท่านจะได้ภาคภูมิใจว่าเป็น สว.ยุคใหม่"นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว