นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจงเหตุผลในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉับยุบพรรคก้าวไกลว่าเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 ที่ไม่ต้องดำเนินการไต่สวน เพียงแต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ โดยไม่ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ซึ่งเป็นความผิดในลักษณะเดียวกับที่ กกต.เคยยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ
เหตุผลที่ กกต.ต้องยื่นคำร้องดังกล่าว เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค.67 ระบุชัดเจนว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ กกต.ไม่อาจจะดำเนินการอย่างอื่นได้เลย โดยขอยืนยันว่า กกต.ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็รับฟังและปฏิบัติตามดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
"อันนี้ถือว่า กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ถ้าขนาดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ใช่หลักฐานอันควรเชื่อถือได้ กกต.คงตอบสังคมยาก อีกทั้งคำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลผูกพันกับ กกต.ตามรัฐธรรมนูญ และมีผู้มาร้องเรื่องนี้ หาก กกต.ไม่ดำเนินการยื่นคำร้องดังกล่าวก็จะมีความผิดตามกฎหมายได้ " นายปกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ไม่สามารถตอบได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค คณะกรรมการฯ เป็นผู้ปฏิบัติ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่ได้ แต่เมื่อใดมีการแก้กฎหมาย ไม่ให้บัญญัติเรื่องยุบพรรคการเมืองไว้ คณะกรรมการฯ แม้แต่จะคิดก็ยังไม่กล้า