นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า ขอให้ชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่าเป็นรัฐบาล "นักวิ่งราวทรัพย์" หมายถึงเดินหน้ากู้เงิน โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์การเงินการคลัง พร้อมนำเงินที่กู้นั้นไปแจกประชาชน แล้วบอกเป็นผลงานของตนเอง
สำหรับการอภิปรายวันนี้จะเป็นการอภิปรายในภาพรวม ตามด้วยเนื้อหางบประมาณของกระทรวงการคลัง ส่วนวันที่ 2 จะเป็นงบประมาณที่เกี่ยวกับสังคม และวันสุดท้ายเป็นงบประมาณเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ ซึ่งงบประมาณรอบนี้ จะเพิ่มขึ้นจากปี 67 กว่า 230,000 ล้านบาท และงบกลางเพิ่มขึ้น 190,000 ล้านบาท โดยนำมาดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตถึง 152,000 ล้านบาท
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า การตั้งงบประมาณปีนี้เพื่อชดเชยการขาดดุล เป็นที่น่ากังวลสำหรับประเทศไทย เพราะเดิมทีกำหนดไม่ให้เกิน 3% แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.5% จึงน่ากังวลว่าเงินที่ใช้หนี้ให้กับภาครัฐที่ตั้งไว้ 400,000 ล้านบาท เป็นเงินต้นแค่ 150,000 ล้านบาท แต่เป็นดอกเบี้ยถึง 250,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ส่วนดอกเบี้ยหนี้สาธารณะห้ามเกิน 10% แต่ตอนนี้ไป 9% แล้ว เมื่อไหร่ครบ 10% ซึ่งจะทำให้ประเทศขาดความน่าเชื่อถือ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น การจัดทำงบประมาณก็จะดำเนินการต่อไปได้ เพราะงบประมาณจำเป็นที่จะต้องนำไปบริหารราชการแผ่นดิน แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งงบประมาณที่ขาดดุลอยู่เรื่อย จะเป็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นปัญหาต่อภาวะการคลังของประเทศในวันข้างหน้าหรือไม่
นายชัยชนะ มองว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองยังปกติดี คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ก็ขยายเวลาการพิจารณาทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล และคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองยังคงน่าติดตามว่าจะไปในทิศทางใด
"คิดว่าจะชัดเจนกว่านี้ เมื่อมีคำตัดสินคดีใดคดีหนึ่งออกมา ก็สามารถทำให้เห็นว่าทิศทางจะไปทางไหนได้ หากคำวินิจฉัยของศาลนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง งบประมาณวาระที่ 1 นายกรัฐมนตรีเป็นคนเสนออยู่แล้ว แต่หากศาลตัดสินก่อนวาระ 2 และ 3 ก็ต้องดูว่ากฎหมายกำหนดให้มีนายกรัฐมนตรีรักษาการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หรือหากนายกรัฐมนตรีลาออกก่อน ก็จะมีผู้รักษาการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งดำเนินการพิจารณางบได้อยู่แล้ว" นายชัยชนะ กล่าว