นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วงเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า หากพรรคก้าวไกลห่วงควรต้องเข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 จะได้เห็นและตรวจสอบได้ชัดเจน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่อยากให้พรรคก้าวไกลที่ทำงานเรื่องการสร้างประชาธิปไตย มองแต่ความต้องการของตนเองเพียงด้านเดียว ควรมองให้กว้าง ไม่ใช่ยึดแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก โดยไม่สนใจอะไรเลย หากทำแบบพรรคก้าวไกล ก็ต้องกลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2562 แบบเดิม
"เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เชิญเข้ามาร่วม ก็ไม่เอา แต่ไปอยู่ข้างนอกก็วิจารณ์ แล้วก็บอกว่าห่วง ซึ่งหากห่วงก็ขอให้เข้ามาร่วม ซึ่งเรื่องนี้เป็นตรรกะง่าย ๆ...อยากให้คิดอะไรให้กว้าง ไม่อยากให้ใช้อารมณ์หรือความต้องการของตนเองเป็นหลัก หากช่วยให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น บรรยากาศในประเทศจะดีขึ้น กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา อยากให้ก้าวไกลเข้าใจปรัชญาในประเด็นนี้ด้วย" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่ลงมติรับร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 และจะไปยื่นฟ้องศาลปกครองนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่กระบวนการที่ควรจะทำในขณะที่ประเทศต้องการใช้เงินงบประมาณ และไม่รู้ว่าจะไปยื่นโดยใช้กฎหมายข้อใด หรือว่าพูดให้รู้ว่าตัวเองตั้งใจจะตรวจสอบที่รัฐบาลแย่มาก แต่ศาลปกครองก็ไม่มีอำนาจที่จะรับ
นายภูมิธรรม เห็นว่า จริง ๆ เรื่องนี้ควรจะไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่การจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ต้องมีหลัก 2 ข้อ คือ 1.เนื้อหาข้อกฎหมายใดข้อกฎหมายหนึ่งในนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญจึงจะไปยื่นได้ 2.หากจะไปยื่นก็ควรจะยื่นหลังจากที่ผ่านการพิจารณา วาระ 3 แล้ว และต้องให้วุฒิสมาชิก (สว.) พิจารณาอีกชั้น
"หากผ่านไปแล้ว เมื่อถึงขั้นตอนจะนำขึ้นโปรดเกล้าฯ คุณถึงมีสิทธิที่จะไปยื่นได้ ต้องอยู่ใน 2 เงื่อนไขนี้ ซึ่งจากที่ดูทั้งหมดแล้วไม่มีอะไรที่ขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลพยายามดูอยู่ ทำตามกฏหมายชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ทราบว่านี่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้รู้สึกว่ารัฐบาลแย่ แล้วทำให้ตัวเองดูดีหรือไม่ แต่หากมีข้อกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน ก็ว่ามา แต่ถึงอยู่หรือไม่อยู่ เขาก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว" นายภูมิธรรม กล่าว