นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล จ่อยื่นศาลปกครองระงับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หลังน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลออกมาระบุว่า จะรอให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ผ่านวาระ 3 ก่อนถึงจะยื่นศาลปกครองว่า วิธีการของพรรคก้าวไกล เป็นวิธีการทำงานที่ใจไม่กว้าง ไม่ก้าวไกล ไม่ก้าวหน้า และไม่ก้าวใหม่จริง
ความจริงในพรรคก้าวไกลมี สส. ก้าวไกล เป็นกรรมาธิการอยู่แล้ว เช่น นายวีระ ธีระภัทร น่าจะปรึกษาได้ ควรใช้โอกาสนี้ในการปรับลดอะไรให้เต็มที่ เมื่อตกผลึกแล้วก็จะได้งบประมาณที่สมบูรณ์แล้วนำมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ตามกำหนดเวลา
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ไม่ได้เปิดช่องให้ทำได้ หากจะพอกล้อมแกล้มให้ฝ่ายค้านทำได้ ก็มีมาตรา 11 (2) แต่ก็ไปได้ยากมาก อีกทั้งงบประมาณแผ่นดิน แม้จะออกไม่ทันในปีงบประมาณ แต่ในมาตรา 141 ของรัฐธรรมนูญ ก็เขียนไว้ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายของปีก่อนได้
"จริงๆ การจะอ้างว่าร่างกฎหมายงบประมาณปี 68 ขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็มีรัฐธรรมนูญมาตรา 148 ที่ให้ สส. หรือ สว. 1 ใน 10 เสนอว่าร่างกฎหมายงบประมาณขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ให้ประธานสภาใดสภาหนึ่ง ยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้าทำแบบนี้ ยังจะพอเหมาะสมกับความเป็นผู้นำพรรคการเมืองหน่อย แต่การที่คนของพรรคก้าวไกล ซัดศาลรัฐธรรมนูญไว้มาก เลยไม่อยากใช้บริการ การแสดงความคิดของระดับผู้นำพรรคที่แสดงออกมา จึงไม่รอบด้าน และขาดมาตรฐาน เหมือนกับตอนที่เคยเสนอแก้ไข ปอ.112 ในสภาฯ สุดท้ายพรรคก็ต้องมาลำบาก เพราะความไม่รอบด้าน" นายคารม กล่าว