ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กับพวกรวม 39 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, ก่อการร้าย, ยุยงให้หยุดงานฯ, กระทำให้ปรากฏด้วยวาจาหรือวิธีการอื่นใดฯ ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, บุกรุกในเวลากลางคืนฯ และร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ (รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) เข้าบริหารประเทศในช่วงปี 2556-2557
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในข้อหากบฎและก่อการร้ายพิพากษาลดโทษจำคุก นายสุเทพกับพวก จากเดิมที่จำคุกตั้งแต่ 4-9 ปีกว่าลงมาเหลือคนละ 1-1 ปีเศษ แต่ไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเหตุต่อเนื่องกัน ต่างจากศาลชั้นต้นที่มองเป็นการกระทำหลายกรรมโทษเลยสูง โดยพิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญาจำเลยทั้งหมด 14 คน ส่วนรายอื่นก็มีพิพากษาแก้ยกฟ้อง และมีเพิ่มโทษ
"จำเลยที่ถูกพิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นประกันในชั้นฎีกา ซึ่งคาดว่าศาลจะมีคำสั่งได้ในวันนี้เลย เรื่องจากศาลชั้นต้นสามารถสั่งเองได้แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจว่าจะส่งศาลฎีกาหรือไม่ หลักทรัพย์เดิมเราเตรียมไว้พร้อมแล้ว" นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ กล่าวภายหลังศาลมีคำพิพากษา
ล่าสุด ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 14 คนระหว่างฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เดิมในศาลชั้นต้นประมาณรายละ 6-8 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล โดยให้นำหนังสือเดินทางมาวางศาลไว้