มติ กกต.รับรอง สว. 200 คนพร้อมสำรองเพื่อให้เดินหน้าเปิดประชุมรัฐสภาได้

ข่าวการเมือง Wednesday July 10, 2024 16:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบประกาศรับรองการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครบ 200 คน เพื่อให้เปิดประชุมรัฐสภาได้ ส่วนสำรองจะมี 99 คน เนื่องจากมีการเลื่อนลำดับสำรองในกลุ่มที่ 18 ขึ้นมา หลังมี 1 รายถูกระงับสิทธิ (โดนใบส้ม) เนื่องจากพบความผิดชัดเจนในเรื่องของคุณสมบัติ

พร้อมกำหนดให้มารับหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานในการรายงานตัว ในวันที่ 11-12 ก.ค. เวลา 8.30-16.30 น.

"กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การเลือก สว. เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม จึงมีมติประกาศผลการเลือก สว.ของแต่ละกลุ่ม ทั้ง 20 กลุ่ม ลำดับที่ 1 ถึง 10 ของแต่ละกลุ่ม เป็นสว. ส่วนลำดับที่ 11-15 ของแต่ละกลุ่มเป็นบัญชีสำรอง ยกเว้นกลุ่มที่ 18 ซึ่งกกต. ได้ระงับสิทธิชั่วคราว (ใบส้ม) ของผู้ได้รับเลือก 1 คน ซึ่งอยู่ในลำดับ ที่ 1-10 จึงต้องเลื่อนสำรองลำดับที่ 11 ขึ้นมาแทน ทำให้เหลือสำรองกลุ่มนี้แค่ 4 คน ดังนั้น กกต.รับรองครบ 200 คน และบัญชีสำรอง 99 คน เรียบร้อยเพื่อให้เปิดสภาได้" นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าว

สำนักงาน กกต.ได้รวบรวมกลุ่มความผิดที่อาจจะนำมาพิจารณาเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการประกาศผลการเลือก สว.ครั้งนี้ คือ 1.คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม หมายรวมถึงการสมัครลงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งด้วย 2. กระบวนการในการดำเนินการเลือก ในวันที่ 9 วันที่ 16 และวันที่ 26 มิ.ย. 3. ความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อันเกิดจากการฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งสังคมจะใช้กันว่าการจัดตั้ง บล็อกโหวต หรือฮั้ว

*กลุ่มแรก คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม

กรณีนี้มี 3 เรื่อง คือ มีผู้สมัครที่สนใจมาสมัครช่วงเปิดรับสมัคร 5 วัน รวม 48,117 คน ผอ.ระดับอำเภอได้ตรวจสอบคุณสมบัติ แล้วไม่รับสมัคร 1,917 คน เมื่อรับสมัครไปแล้วก็ได้ลบชื่อก่อนการเลือกระดับอำเภออีก 526 คน ก่อนผ่านชั้นจังหวัดก็ได้ลบผู้มีสิทธิเลือกไปอีก 87 คน และผ่านมาระดับประเทศ ผอ.ระดับประเทศก็ลดไปอีก 5 คน รวมแล้วมีการตรวจสอบและคัดคนที่ไม่มีคุณสมบัติในลักษณะต้องห้ามออกไป 2,000 คน เกือบ 3,000 คน กกต.มีมติให้ใบส้มเรื่องคุณสมบัติ ระงับสิทธิ์สมัครชั่วคราว จำนวน 89 ใบ รวมทั้งส่งให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งด้วยอีก 1 คน เนื่องจากเข้าได้เข้าสู่กระบวนการเลือกแล้ว จึงเป็นผู้มีส่วนทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่วนระดับอำเภอที่ลบไป 500 กว่าคนไม่ได้ให้ใบส้มเพราะยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการเลือกระดับอำเภอ แต่จะพิจารณาว่ารู้หรือ ควรรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิแต่ยังไปสมัครรับเลือก ซึ่งถือเป็นคดีอาญา

เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนข้างต้นคิดเป็น 65% หรือราวๆ 600 กว่าเรื่อง จากเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ที่มาเข้ามาจนถึงขณะนี้ประมาณ 800 กว่าเรื่อง โดยเป็นทั้งความปรากฏ ผู้สมัครมาร้องเอง และที่ กกต.ลบชื่อออก ดังนั้นเหลืออยู่ราว ๆ 200 เรื่อง ที่ต้องพิจารณา

*กลุ่ม 2 กระบวนการเลือก ในวันที่ 9 วันที่ 16 และวันที่ 26 มิ.ย.

มีสำนวนมาร้อง 3 สำนวน กกต.พิจารณาเสร็จแล้ว และมีสำนวนที่ไปร้องศาลฎีกา 18 คดี ศาลฎีกาได้ยกคำร้องทุกคดีแล้ว

*กลุ่ม 3 การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

ขณะนี้มีอยู่ 47 เรื่อง คือ เรื่องที่สังคมเรียกว่าการจัดตั้ง การฮั้ว การบล็อกโหวต ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้รวบรวมพยานหลักฐานได้มาพอสมควร ซึ่งลักษณะที่รวบรวมมาพบว่าเป็นขบวนการที่ต้องนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน สำนักงาน กกต.จึงได้ขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยขอใช้เทคนิคอุปกรณ์มาตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้สมัคร หรือคนอยู่เบื้องหลัง จะได้ถึงไหนอย่างไร เพื่อนำเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา เรื่องการกระทำที่อาจจะทำให้การเลือกไม่สุจริต

"เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นนี้ทั้ง 3 กลุ่มความผิด กระบวนการเลือกตั้ง 3 ระดับจบหมดแล้ว ไม่มีคดีค้างที่ศาล ถือว่าการเลือกเป็นไปโดยชอบ ในส่วนของความไม่สุจริต และเที่ยงธรรม เมื่อมีคำร้อง สำนักงาน กกต.ได้รับเป็นสำนวนเอาไว้แล้วขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลไว้แล้ว แต่ข้อมูล ณ วันนี้ยังไม่พอเพียง ที่จะบอกว่าเขากระทำความผิด สำนักงานฯ ต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงตามที่กฎหมายกำหนด ในชั้นนี้จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม" นายแสวง กล่าว

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ผู้ที่ถูก กกต.ระงับสิทธิชั่วคราวหรือแจกใบส้ม คือ น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.อ่างทอง ลำดับที่ 4 กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน โดยระบุในประวัติการทำงานว่า "ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน เป็นประชาสัมพันธ์อำเภอไชโย" และจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.คอดียะฮ์ เป็นที่ปรึกษา นายก อบจ.อ่างทอง ซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.ถือเป็นผู้บริหารท้องถิ่น จึงถูกระงับสิทธิชั่วคราว ทำให้ กกต.เลื่อน ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ อดีตประธานรุ่น 5 หลักสูตร "พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร" (พคบ.) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ลำดับที่ 11 ซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองเลื่อนขึ้นมาแทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ