นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารัฐสภา เพื่อตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต จะมีการแถลงในวันที่ 24 ก.ค. มั่นใจว่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเรื่องของงบประมาณ และประเภทสินค้าที่จะร่วมในโครงการ
สำหรับประเภทสินค้าที่เข้าร่วมโครงการนั้น รัฐบาลได้รับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะประชาชน ผู้ประกอบการ และฝ่ายค้าน ว่าอะไรเหมาะสมและไม่เหมาะสม ได้มีการพูดคุยกันตลอดเพื่อปรับปรุงให้โดนใจประชาชน และถูกจุดประสงค์ของโครงการนี้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่องของการปรับลดงบประมาณเหลือ 4.5 แสนล้านบาท จากงบ 5 แสนล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดูจากสถิติเก่า จากรัฐบาลที่ผ่านมาว่า มีการแจกเงินและได้มีการวิเคราะห์ว่าจะมีคนไม่มาใช้สิทธิ์กี่คน แต่รัฐบาลก็ได้เตรียมไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งมั่นใจว่าจะใช้งบโดยพินิจพิเคราะห์อย่างดี เป็นไปตามกฏหมาย ซื่อสัตย์สุจริต และเป็นไปตามกติกาในการใช้งบประมาณที่ถูกต้อง
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล เหตุผลที่ต้องใช้เงิน 10,000 บาทต่อคน และจำกัดพื้นที่ในการใช้ เพราะไม่ต้องการให้จำกัดความเจริญอยู่ที่หัวเมืองหลักเพียงอย่างเดียว การที่ประชาชนมีบัตรประชาชนอยู่ในอำเภอไหน ก็ให้ใช้ในอำเภอนั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ ไม่ว่าจะเป็นหนองบัวลำภู บึงกาฬ มหาสารคาม ที่มี GDP ต่ำเพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคเป็นไปตามความต้องการของทุกคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า 10 ปีที่ผ่านมา GDP ของไทยเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่มี Infrastucture ส่งผลให้อัตราเติบโตมีเพียง 3% ต่อปี และส่วนใหญ่เป็นแบบ K shaped recovery คนที่รวยแล้วก็รวยอีก รวยไปเรื่อย ๆ คนจนก็ต่ำต้อยต่อไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด การลงทุนของภาครัฐและเอกชนก็ค่อนข้างราบเรียบ ส่งออกก็ติดลบ นำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้นส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบและพลังงาน ซึ่งเรามีการปรับตัวช้ามากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตนต้องเดินทางไปต่างประเทศ ต้องมีการเจรจากับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เพื่อทำให้มีความมั่นใจมาลงทุนและซื้อสินค้าไทย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมอัตราเติบโตตกหมด ต่ำกว่า 60% แสดงว่าคนไม่มีกินไม่มีใช้ เพราะฉะนั้นทำไมต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต เพราะหากมีเงินใหม่เข้ามาในระบบ โรงงานต่าง ๆ จะผลิตสินค้า มารองรับการซื้อของประชาชน ทำให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้น
ส่วนกรณีการเพิ่มสัดส่วนต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เป็นการเรียกร้องจากฝ่ายต่างประเทศที่อยากให้เพิ่มเวลาเช่าทรัพย์อิงสิทธิ์
"คงไม่ได้เป็นเรื่องการขายชาติ แต่เป็นการให้ศึกษาว่าเหมาะสมหรือเปล่า ขอฝากไว้ว่า ต่อไปต้องมาดูกันว่าถ้าเกิดทำแล้ว จะส่งผลระยะยาวให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ก่อให้เกิดการลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่ ขอยืนยันว่าต้องมีการศึกษา และตั้งใจให้ซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทุกประการ ไม่ได้มีการกดดันใครทั้งสิ้น ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ ภายใต้การนำของผม จะวิ่งสู้เพื่ออนาคต และพรรคร่วมทุกพรรคในรัฐบาล เราก็จะช่วยวิ่งสู้ต่อไป เพื่อปัจจุบันที่ดีกว่า จะต้องสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมยืนยันว่า ให้ความเคารพกับสภานิติบัญญัติ หากมีปัญหาอะไรก็ยินดีจะเข้ามาชี้แจง แต่หากติดภารกิจ ก็จะอาจจะมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตอบแทน ยืนยันว่าไม่ได้หนี เพราะมีภารกิจค่อนข้างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนก็เคยเดินทางเข้ามาตอบคำถามของฝ่ายค้านแล้ว โดยไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ว่าจะไม่ตอบคำถามพรรคก้าวไกล และไปตอบของพรรคอื่น
https://youtu.be/CydN9OqlibQ