นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ?..เป็นจำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท วาระที่ 1 ในวันที่ 17 ก.ค. นี้นั้น
สส.พรรคเพื่อไทย มีความพร้อมในการอภิปรายสนับสนุน และยืนยันถึงความจำเป็นของร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อนำไปดำเนินนโยบายเร่งด่วน กระตุ้นเศรษฐกิจตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงเป็นนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่าง ๆ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ
ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันตกอยู่ในภาวะซึมลึกและซบเซายาว ทั้งก่อนช่วงการระบาดของโควิด และช่วงฟื้นตัวหลังโควิดที่ทำได้ไม่เต็มศักยภาพ GDP จาก 4.2% ในปี 61 เติบโตถดถอยลงก่อนช่วงโควิดอยู่ที่ 2.1% จนถึงช่วงโควิด GDP ติดลบที่ 6.1% และแม้จะผ่านช่วงของการระบาดมาแล้วเศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว GDP ปี 66 ยังไม่ถึง 2% อยู่ที่ 1.9%
นายดนุพร คาดว่าหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และ 3 แล้ว คาดว่า สมาชิกวุฒิสภาจะพิจารณาในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ มั่นใจว่าทันต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน ขอประชาชนอดใจรอ
"พรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณร้ายมาโดยตลอดว่า เศรษฐกิจแย่ และเรามีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางไหนที่เราทำได้ เราจะเดินหน้า เราพร้อมชี้แจง แต่จะไม่ติดกับดักความสงสัยที่สร้างความสับสนให้กับสังคม หากฝ่ายค้านจะเห็นต่างก็เป็นเรื่องความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ขอให้มองความเดือดร้อนของประชาชนด้วยใจที่เป็นธรรมด้วย" นายดนุพร กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิทักษ์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเตรียมผู้อภิปรายไว้ 10-11 คน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์แจ้งมาแล้ว 3 คน และจะมีเพิ่มเติมภายหลัง โดยจะอภิปรายในหลายแง่มุม ทั้งกฎหมาย วิธีการงบประมาณ ความคุ้มค่า ค่าเสียโอกาส และข้อกังวลที่เกี่ยวเนื่องจากการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้มีเพียงแค่การทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น ถ้าเราเสียโอกาสแก้ไขปัญหาอื่น ๆ แล้วไปวัดดวงกับโครงการดังกล่าวเพียงโครงการเดียว ล่าสุดรัฐบาลยอมรับตัวเลขประเมินที่ทาง รมช.คลัง ออกมาแล้วว่า ลงทุนไป 5 แสนล้านบาท แต่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ถึง 2.5 แสนล้านบาท ดังนั้นตนจึงไม่มั่นใจว่าจะคุ้มค่ากับการที่ยอมเดิมพันทุกสิ่งอย่าง เพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่
"หลายคนที่มองว่ารัฐบาลทำตามที่หาเสียงไว้ว่าเวลาพูดถึงนโยบายหาเสียง โดยเฉพาะที่ใช้งบประมาณ อยากให้มอง 3 ส่วน คือ งบมาจากไหน ทำอะไร ผลจะเกิดอะไรขึ้น อยากให้มองย้อนกลับไปที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ คือ ไม่กู้ ไม่เบ่งงบประมาณแบบนี้ แต่ตอนนี้ที่มางบเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าเดิม เหลือแค่วิธีการที่จะแจกเงิน 1 หมื่น ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ถ้วนหน้าด้วย ถือว่าไม่เหมือนเดิมด้วยซ้ำ ถ้ามองกันจริงๆนโยบายที่หาเสียงไว้คืออะไร กับนโยบายที่รัฐบาลกำลังทำ ผมคิดว่านโยบายตอนนี้ไม่ใช่นโยบายที่เพื่อไทยหาเสียงไว้เลย" ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว