พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงมติไม่รับร่างหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567
พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่า โครงการนี้อาจเสี่ยงผิดกฏหมาย รวมถึงสร้างบรรทัดฐานผิด ๆ ในการจัดทำงบประมาณ รวมถึงการนำงบกลางไปใช้ในช่วงปลายปี ดังนั้นต้องมีการบริหารงบประมาณอย่างเหมาะสมและสร้างความสมดุลในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นด้วยกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จำเป็นต้องถูกจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม เพราะจากการประเมินจากหลายสถาบันที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือธนาคารโลก ประเมินว่า ผลกระทบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่ำกว่าเม็ดเงินที่ใช้ไป จึงเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
ด้าน นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรคฯ สนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน และหวังว่ารัฐบาลจะทบทวนเพื่อไม่ให้ผิดต่อหลักการที่ให้ไว้กับประชาชน และโครงการควรมีความชัดเจนในเรื่องแหล่งที่มาของเงิน เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และไม่เสี่ยงผิดต่อกฎหมาย เนื่องจาก
1.งบประมาณเพิ่มเติมวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เป็นการกู้เงิน 1.12 แสนล้านบาท ซึ่งผิดหลักการต่อประชาชน ที่นายกฯ เคยหาเสียงไว้ว่าไม่กู้ แต่สุดท้ายก็เป็นการกู้ และเป็นการกู้ที่เกือบชนเพดาน อันเป็นการสร้างภาระหนี้สาธารณะ และเป็นภาระต่อประชาชน
2.การของบประมาณเพิ่มเติมนี้ ไม่มีความชัดเจนของภาพรวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งแหล่งที่มาของเงิน เงื่อนไข หลักเกณฑ์ในการแจก และความคุ้มค่าของโครงการ ซึ่งหมายความว่าเงินที่ขออนุมัติในวันนี้เป็นการขอเงินท่ามกลางความไม่ชัดเจนของแหล่งที่มาของเงินอื่น ๆ และโครงการทั้งหมด
3.หลักการในการกู้เงินมาแจก มีความสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย วินัยการเงินการคลัง
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากขัดต่อวินัยการเงินการคลัง และขัด พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ ซึ่งเป็นการทำลายหลักการของวิธีการงบประมาณ
"ถ้าเปรียบกับรถยนต์ก็เหมือนรถยนต์ที่ล้อหน้าวิ่งตามล้อหลัง เราไม่สามารถรับหลักการในส่วนนี้ได้ จะส่งผลกระทบต่องบประมาณปี 68 ถ้าไม่ถูกปี 67 ถอนร่างออกไป ถ้ายังยืนยันอยู่ก็ไม่รับหลักการตรงส่วนนี้" นายฐากร กล่าว