พปชร.เลือดไหลไม่หยุด! "สัณหพจน์" อดีต สส.นครฯ ทิ้งพรรคตามหลัง "สกลธี"

ข่าวการเมือง Friday July 19, 2024 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พปชร.เลือดไหลไม่หยุด!

หลังจากเมื่อวาน (18 ก.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเป็นหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้ประกาศยื่นใบลาออกจากทุกตำแหน่ง เพื่อไปทบทวนการทำงาน และเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงบริบททางการเมือง พร้อมทั้งหาแนวทางไปสู่การเมืองไทยในแบบที่อยากเห็น

ล่าสุดวันนี้ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง อดีต สส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก พร้อมหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคฯ ตามไปอีกราย

นายสัณหพจน์ ระบุว่า ได้เดินทางเข้าขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ เพื่อกราบลาก่อนยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่าต้องการพักผ่อนกับครอบครัว ไม่ได้ย้ายไปสังกัดกับพรรคการเมืองใด

พร้อมขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ได้ไว้วางใจให้ทำงานเป็นกำลังหลักในการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือน มี.ค.64 และในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่ให้ความไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการพรรค พปชร.

"ผมขอลาออกจาก พปชร. ขอบคุณ "ลุงป้อม" ที่ให้โอกาสทำงาน และมีความเมตตากับผมเสมอมา วันนี้ (19 ก.ค.2567) ผมได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว พร้อมกันนี้ ขออนุญาตเป็นตัวแทนพี่น้องลุ่มน้ำปากพนัง ขอบคุณท่านอีกครั้งที่ได้ประสานงานอนุมัติงบประมาณในการขุดลอกแม่น้ำปากพนัง วงเงินจำนวน 147 ล้านบาท และงบช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกครั้งที่ผ่านมา"

สำหรับนายสัณหพจน์ หรือ ดร.ชัย คนลุ่มน้ำปากพนัง เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ปี 2561 ได้ลงสมัคร สส. และชนะการเลือกตั้งเป็น สส.เขต 2 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562-2566 แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2566 ไม่ได้รับเลือก จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้แต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการพรรค พปชร. และไว้วางใจให้ดูแลฐานเสียงหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้

อย่างไรก็ตาม นายสัณหพจน์ ได้แสดงความคิดเห็นกรณีที่ สส.พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดตั้ง จ.สว่างแดนดิน และ จ.ทุ่งสง โดยเฉพาะ จ.ทุ่งสง ว่าไม่เห็นด้วยต่อแนวความคิดตั้ง จ.ทุ่งสงขึ้นมาใหม่ ซึ่งแยกตัวออกจากนครศรีธรรมราช เพราะ สส.สามารถใช้กลไกของสภาฯ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ของตนเองให้มีความเจริญร่วมกับแนวทางอื่นได้ ไม่ใช่การจัดตั้งจังหวัดใหม่ เพื่ออ้างอิงการกระจายความเจริญผ่านการปกครอง และงบประมาณเมื่อมีการแยกเป็นจังหวัด และไม่อยากเห็นนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ตั้งแต่ในอดีต ต้องลดสถานะลงมาเป็นเพียงจังหวัดเล็ก ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ