เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ออกแถลงการณ์ประกาศยุติการชุมนุม โดยระบุว่า จากการที่เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ชุมนุม ณ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการกำหนดสถานะกัญชาว่าควรควบคุมด้วยกฎหมายใด ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 67 จนกระทั่งวันนี้ รวมเป็นเวลา 12 วัน และเครือข่ายได้ใช้วิธีการสันติ ด้วยการอดอาหาร 10 วัน เพื่อแสดงให้เห็นเจตจำนงค์ว่ากระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ทั้งนี้ เมื่อผู้ที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด ทั้งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะต้องใช้เหตุผลข้อมูลในการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด จึงสอดคล้องกับข้อเสนอ และจุดยืนของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จึงมั่นใจได้ว่า กัญชาจะไม่ถูกนำไปสู่ยาเสพติดในขณะนี้ และเพื่อให้เกิดการใช้ข้อมูลในกระบวนการกำหนดสถานะกัญชา จึงต้องมีองค์คณะสำหรับการวิจัยหาข้อมูลดังกล่าว
ขณะเดียวกัน จากการหารือกับหลายฝ่าย จึงได้ตั้งกรรมการประชาชนขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อจัดทำข้อมูลนำเสนอต่อสาธารณะ รวมทั้งต่อผู้ที่มีบทบาทในการกำหนดสถานะกัญชา คือนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นกรรมการที่จะต้องมีมติในการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดหรือไม่
โดยคณะกรรมการประชาชน ซึ่งประกอบด้วย ภาควิชาการ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนภาควิชากัญชา แพทย์ผู้ทำงานด้านกัญชานักปลูก ผู้ประกอบการ และผู้ที่มีความเห็นต่าง ทั้งชมรมแพทย์ชนบท หรือกลุ่มเยาวชนที่ต้องการให้นำกัญชากลับสู่ยาเสพติดมาร่วมในกรรมการ ซึ่งจะเร่งให้มีกรรมการชุดนี้เกิดขึ้นภายใน 7 วันนับจากวันนี้ และเร่งให้เกิดการศึกษาข้อเท็จจริงด้านต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน เพื่อให้ทุกฝ่ายรับรู้ และใช้ข้อมูลกำหนดสถานะกัญชา
"เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ตั้งใจจะจัดทำการสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ เพื่อให้สาธารณะรับทราบเป็นระยะ เนื่องจากเชื่อว่า การรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านของประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในกระบวนการกำหนดสถานะกัญชาว่า ควรควบคุมโดยกฎหมายรูปแบบใด"
ดังนั้น ด้วยการกำหนดแนวทางดังกล่าว เครือข่ายฯ จึงขอประกาศยุติการชุมนุม เพื่อดำเนินการในขั้นถัดไป และเราตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะทำให้กัญชาควบคุมโดยกฎหมายพระราชบัญญัติ และขอยืนยันกับพี่น้องที่ร่วมชุมนุมทั้งที่สะพานชมัยมรุเชฐ และพี่น้องที่เป็นกำลังในพื้นที่ว่า จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการทำให้กัญชากลับมาควบคุมโดยกฎหมายพระราชบัญญัติ เพื่อกำหนดสิทธิอย่างเสมอภาคแก่ประชาชนทุกคน ภายใต้มาตรการควบคุมที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
"เราเชื่อว่า เมื่อประชาชนมีข้อเท็จจริงใหม่ จะเป็นพลังในการกำหนดตำแหน่งแห่งที่ของกัญชาอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ขอให้คำมั่นต่อทุกท่านว่า กัญชาจะไม่มีทางกลับไปเป็นยาเสพติดอีก"