พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้รับคะแนนสูงสุดจำนวน 150 คะแนน จากการลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 โดยมีผู้ได้รับการเสนอชื่อรวม 4 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ.เกรียงไกร 2.นายนพดล อินนา สว.กลุ่มสิ่งแวดล้อมฯ 3.นายปฏิมา จิระแพทย์ สว.กลุ่มสิ่งแวดล้อมฯ และ 4.นายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว.กลุ่มแรงงาน
ในการนับคะแนนจากการขานชื่อผู้ที่เลือกซึ่งเขียนบนกระดาษ พบว่า ช่วงหนึ่ง พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. ซึ่งเป็นกรรมการนับคะแนน ได้ซักถามเจ้าหน้าที่ว่า "เขียนว่า เกรียงศักดิ์ ได้ไหมครับ" ก่อนจะขานให้ที่ประชุมฟังอีกครั้งว่า "บัตรเสีย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ศรีรักษ์" และในการขานคะแนนในใบสุดท้าย พ.ต.อ.กอบ ขานคะแนนว่า งดออกเสียง ทำให้จำนวนบัตรลงคะแนนนั้นเกินกว่าจำนวน สว.ที่มีอยู่ 200 คน เป็น 201 ใบ
หลังจากนับคะแนนเสร็จแล้ว พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว.อาวุโสทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว ได้ประกาศว่า มีข้อผิดพลาด ขอให้เจ้าหน้าที่นับใหม่อีกครั้ง
ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มสื่อมวลชน ซักถามเหตุผลที่ต้องนับคะแนนใหม่ เนื่องจากคะแนนบนจอมีจำนวน 200 คนแล้ว ทำให้ พล.ต.ท.ยุทธนา แจ้งว่า มีบัตรเสียเกินมา 1 ใบ ทำให้ น.ส.นันทนา หารือว่า ขอให้เดินหน้าต่อในการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เพราะข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่กลับไปดูเทปบันทึกแทน หากนับใหม่จะเสียเวลานาน อีกทั้งคะแนนที่ได้ ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคะแนนอันดับ 1
อย่างไรก็ดี พล.ต.ท.ยุทธนา ยืนยันว่า เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เนื่องจากต้องมีการบันทึกคะแนนไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา บัตรเสียและบัตรงดออกเสียงพันกัน อาจจะทำให้พลาดไป ทั้งนี้ เมื่อมีกรรมการแล้วอยากให้กรรมการแก้ไขให้ถูกต้อง จึงต้องมีการนับคะแนนใหม่อีกครั้ง ดยผลคะแนนที่ได้ ออกมาดังนี้
- พล.อ.เกรียงไกร ได้ 150 คะแนน
- นายนพดล ได้ 27 คะแนน
- นายปฏิมา 5 คะแนน
- นายแล 15 คะแนน
- งดออกเสียง 1 เสียง
- บัตรเสีย 2 ใบ
โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.เกรียงไกร ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมฯ ไว้ว่า ตนยึดมั่นและมีความจงรักภักดี รวมถึงจะธำรงไว้ซึ่งการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูน ปกป้องสถาบันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ขอให้ความเชื่อมั่นกับ สว.ที่จะทำงานการเมือง และองค์กรอิสระ เที่ยงธรรม เป็นกลางเป็นที่พึ่งของประชาชน และให้วุฒิสภานี้ จะเป็นหลักดำเนินนการต่อชาติบ้านเมือง สว.ที่มาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ขอให้มั่นใจในเกียรติของ สว.ที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ทำงานในกิจการที่เกี่ยวข้องกับ สว.อย่างเท่าเทียมกัน เคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่เพิกเฉยเสียงน้อยที่เห็นต่าง
"ผมยืนยันว่าทำงานทุกอย่างเพื่อให้ สว.เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชน ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำงาน หรือรับฟังความเห็นจากประชาชนทางตรง และทางอ้อม ผมขอสัญญาจะทำสิ่งที่ดีงามให้ สว.เป็นสภาทรงเกียรติ มี สว.จรรโลงความดีงาม เกิดประโยชน์ของประเทศต่อไป" พล.อ.เกรียงไกร กล่าว