นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เปิดเผยว่า จากที่มีโอกาสได้พูดคุยในที่ประชุม สส.พรรคก้าวไกล เห็นว่า สส.พรรคก้าวไกลยังมีกำลังใจที่ดี ซึ่งในฐานะที่ตนเคยมีประสบการณ์ถูกยุบพรรคอนาคตใหม่มาก่อน เชื่อว่าข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล ที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญทำได้ดีครบถ้วนทุกประเด็น เป็นไปตามข้อกฎหมาย ดังนั้น เชื่อว่าวินิจฉัยของศาลในวันนี้ จะไม่ไปถึงขั้นยุบพรรค
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณายุบพรรคก้าวไกล อาจไม่ใช่แค่มิติด้านกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่มีมิติทางการเมืองด้วยนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ในฐานะที่สอนวิชากฎหมายและรัฐธรรมนูญ ได้พยายามอธิบายทุกครั้ง เมื่อมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องของหลักความถูกต้อง อย่านำความรู้สึกหรือปัจจัยทางการเมืองมาเป็นส่วนผสมในการตัดสิน
"ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการยุบพรรคหลายครั้ง และมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมาก ที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นธรรมดา ที่ประชาชนจะประเมินในเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องการเมือง" นายปิยบุตร กล่าว
ทั้งนี้ หากคำวินิจฉัยของศาลฯ ออกมาไม่เป็นคุณต่อพรรคก้าวไกล คุณสมบัติผู้นำพรรคคนใหม่ควรต้องเป็นแบบใดนั้น นายปิยบุตร มองว่า กลุ่มขั้วความคิดแบบพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ถูกสถาปนาเป็นขั้วความคิดทางการเมือง เป็นพลังทางการเมืองแบบใหม่แล้ว ดังนั้นคนที่จะรับบทบาทต่อไปทั้งในวันนี้และวันหน้า ต้องยึดตามแนวทางของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลต่อไป
"ที่สำคัญ ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของแกนนำพรรคไม่กี่คน หรือ สส.ไม่กี่คน แต่มันสำคัญสำหรับความคาดหวังของประชาชน ก็คาดหวังว่า ไม่ว่าวันนี้อะไรจะเกิดขึ้น แกนนำพรรค และพี่น้องในพรรคก้าวไกล จะอาสานำพาความหวังของประชาชนให้สำเร็จ" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร ยังมองว่า กฎหมายอาญา มาตรา 112 ควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจากคำวินิจฉัย 3/2567 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ยังไม่มีตรงไหนที่บอกว่ากฎหมายอาญา มาตรา 112 แก้ไขไม่ได้
"สส. หรือพรรคการเมืองไหน จะดำเนินการรณรงค์ต่อ ก็ต้องประเมินจากสถานการณ์ทางการเมือง ในความเห็นทางวิชาการ ผมยืนยันเสมอว่า การรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และยั่งยืน ให้สอดคล้องสมเกียรติยศ และประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขมาตรา 112" นายปิยบุตร กล่าว