นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล แจ้งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ภายหลังรู้ผลศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปีนั้น
นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเองและกรรมการบริหารพรรรคที่ถูกตัดสิทธิ ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นางเบญจา แสงจันทร์, นายสุเทพ อู่อ้น และนายอภิชาต ศิริสุนทร ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ สส.ต่อไปได้
พร้อมขอบคุณ สส.ทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมา ร่วมผลักดันในเรื่องที่คิดว่าเป็นอนาคตของประเทศ แต่สุดท้ายตนเองไม่มีโอกาสร่วมทำงานกับทุกคนอีกต่อไปอย่างน้อย 10 ปี หวังว่าหลังจากนี้ สส.จะใช้อำนาจหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติที่ประชาชนเลือก และเป็นสถาบันการเมืองเดียวที่ถูกแต่งตั้งโดยประชาชนอย่างคุ้มค้า และทำการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประชาธิปไตยแท้จริงที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ขณะที่ นายปดิพัทธ์ กล่าวอำลาในตำแหน่งรองประธานสภาฯ เช่นกัน "ผมขอขอบคุณ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกัน รวมถึงข้าราชการที่สภาฯ ผมเคารพและขอบคุณจริง ๆ สุดท้ายอำนาจสูงสุดเป็ของประชาชน ขอปิดประชุม" นายปดิพัทธ์ กล่าวและลุกออกจากที่นั่งประธานในที่ประชุม
บรรยากาศในที่ประชุมสภาฯ สส.ของพรรคก้าวไกล หลายคนร่ำไห้และสวมกอดกัน ขณะที่นายชัยธวัช ลุกจากที่นั่งเดินออกจากห้องประชุมสภาฯ โดยมี สส.ก้าวไกล ทั้งสวมกอด ตบบ่าให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยนายชัยธวัช มีน้ำตาคลอ และเดินออกห้องประชุมสภาฯ ไปในช่วงเวลาประมาณ 15.55 น.
ก่อนที่จะเดินทางออกจากสภาฯ เพื่อไปยังที่ทำการพรรคก้าวไกลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า "แล้วพวกผมจะกลับมาใหม่"
ขณะเดียวกัน หน้าเพจของพรรคก้าวไกล โพสตฺว่า "พรรคก้าวไกลถูกยุบโดยคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก้าวไกลไปต่อโดยคำสั่งของประชาชน"