นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนแรก แถลงจุดยืนหลังถูกยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค โดยประกาศเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไปในฐานะประชาชน ยืนยันไม่ละทิ้งอุดมการณ์ ขอนำความคับแค้นใจที่ถูกยุบพรรคไประเบิดในทุกคูหาเลือกตั้งของประเทศที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้
"วันนี้แม้อำลาในฐานะนักการเมือง ผมจะเริ่มต้นทำการเมืองในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง จะไม่ทิ้งประชาชนไปไหน ทำทุกวิถีทางทำให้บ้านเมืองดีขึ้น พาหนะใหม่ ให้จัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดที่เคยมีมา ท่านอาจผิดหวัง โกรธแค้น ไม่ว่ากัน วันนี้เสียใจ โมโหให้เต็มที่ เราจะความคับแค้นและไประเบิดทุกคูหาในการเลือกตั้งต่อไป"
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนล่าสุด กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญส่งผลให้พรรคก้าวไกลทุกยุบ คณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แม้ศาลฯ มีคำวินิจฉัยว่าพรรคล้มล้างการปกครองและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้ทำผิด ล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างที่ศาลเห็น
ผลคำวินิจฉัยวันนี้ สิ่งที่สำคัญกว่าสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหาร คือ มีผลต่อการวางบรรทัดฐานการตีความรัฐธรรมนูญและกฏหมายที่อันตราย สุ่มเสี่ยงผลกระทบ ที่ควรจะเป็นของระบอบประชาธิปไตย
"ผลวันนี้ สุ่มเสี่ยงในระยะยาวทำให้ระบอบประชาธิปไตยกลายพันธุ์ ส่งผลกระทบสำคัญยิ่งกว่ายุบพรรคก้าวไกล"นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ละคน เราจะไม่หันหลังกลับ งานแรกจะไปช่วยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี และช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 พิษณุโลก แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกคาดหมายว่าขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เป็นที่มั่นใหม่ของก้าวไกล กล่าวว่า ในวันที่ 9 ส.ค.จะนำ สส.ของอดีตพรรคก้าวไกลย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ และขอให้สมาชิกพรรคที่ครบ 1 แสนคนในวันนี้ย้ายไปพร้อมกัน
"คนที่รับรู้ความเจ็บปวดครั้งนี้ ไม่พ้นพวกเรา เรารับรู้ความไม่เป็นธรรม เราไม่ละทิ้ง ความฝัน ภารกิจหน้าที่มอบให้กับประชาชนทุกคน ตราบใดประชาชนหนุน เราจะเดินหน้าต่อไป วันที่ 9 ส.ค. ย้ายไปบ้านใหม่ด้วยกัน ขอให้ร่วมติดตามพรรคใหม่เราต่อไป"น.ส. ศิริกัญญา กล่าว
หลังจากแถลงข่าวแล้ว กลุ่ม สส.ทั้งหมดจะเดินไปยังลานกิจกรรม และมีการปราศรัยตั้งแต่ 19.00 จนถึง 22.00 น. โดยมีนายพิธา และนายชัยธวัช ปราศรัยปิดท้าย