นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เตรียมเดินทางไปยื่นฟ้องรัฐบาลต่อศาลปกครองเพื่อขอให้สั่งระงับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนักวิชาการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
"ประชาชนผู้รักชาติจำนวนมากมอบอำนาจให้องค์กรรักชาติรักแผ่นดินเป็นธุระในการรักษาผลประโยชน์ของชาติในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลสั่งระงับโครงการดังกล่าวเสีย โดยจะเดินทางไปยื่นฟ้องในวันศุกร์ที่ 9 ส.ค.67 เวลา 10.00 น.ที่ศาลปกครองกลาง" นายศรีสุวรรณ กล่าว
จากการที่คณะรัฐมนตรีโดยกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยจะต้องมีการกู้เงินและเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศประมาณ 5 แสนล้านล้านบาทมาดำเนินการนั้น
ขณะที่โครงการดังกล่าวถูกนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าจะเป็นการสร้างภาระให้กับการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว และปิดกั้นโอกาสในการนำเงินไปพัฒนาด้านอื่น ๆ ของประเทศอย่างมาก อีกทั้งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 หลายมาตรา และยังอาจขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501, พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561, พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนกฎหมาย คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย
นอกจากนี้ สถาบันวิชาการหลายสำนักยังออกมาประเมินโครงการดังกล่าวว่าจะมีผลกระตุ้นต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เพียงแค่ 0.6-0.9 % เท่านั้น แต่ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลทำให้ประเทศชาติต้องเป็นหนี้ ที่ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ จึงเป็นโครงการที่ได้ไม่คุ้มเสีย ประโยชน์ที่ประเทศจะได้นั้นน้อยกว่าต้นทุนที่เสียไปอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยในระยะสั้น ๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพการคลัง ทั้งๆที่ควรจะนำไปช่วยเหลือเฉพาะคนยากคนจนคนเปราะบางมากกว่าการแจกทั่วไปหมด