นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประกาศพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและนำพาประเทศเดินหน้าให้พ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ หลังจากได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย โดยจะมีการลงคะแนนในสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้
"จะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ...แน่นอนว่าประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้รามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ดิฉันมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่จะช่วยกันพาประเทศของเราให้หลุดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ"นางสาวแพทองธาร กล่าว
สำหรับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลยังจะรับฟังความเห็นกันต่อไป ณ วันนี้ยังไม่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเลย ดังนั้น ขอให้ทุกอย่างเป็นทางการก่อน แต่หวังว่าจะผลักดันนโยบายต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลให้สำเร็จเพื่อประโยชน์ของประชาชน
นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยว่า เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะให้ความเคารพรักต่อนายเศรษฐามานานแล้ว แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม และตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทยที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ประเทศชาติพัฒนาต่อไป
นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยว่า นายเศรษฐา เป็นคนที่สนับสนุนให้ตนรับตำแหน่ง ซึ่งตนก็ให้ความเคารพ เพราะเป็นคนที่มีแพชชั่นเยอะ มีพลังงานล้นเหลือ
ส่วนข้อกังวลว่าจะมีชะตากรรมเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้น ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตนเองเพิ่งเดินทางกลับจากจีน การตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งนั้นได้มีการปรึกษากับคนในครอบครัวทุกเรื่อง และยินดีที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ
ส่วนที่มีข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีความเป็นห่วงนั้น ก็ถือเป็นเครื่องธรรมดาของคนที่เป็นแม่ ซึ่งทุกคนคงเข้าใจได้เหมือนที่ตนเองก็เป็นห่วงลูกเช่นกัน แต่คนในครอบครัวต่างก็เคารพการตัดสินใจครั้งนี้ และให้คำแนะนำในหลายเรื่อง เป็นการให้กำลังใจกันมากกว่า
ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงบทบาทของนายทักษิณ โดยระบุว่ามีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์