นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า แม้ ส.อ.ท. ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการเมืองโดยตรง แต่ยังเชื่อในหลักการว่าไม่ว่าจะเป็นแมวสีอะไร ก็ขอให้จับหนูได้ ดังนั้น ภารกิจต่าง ๆ ของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ขอให้ทำได้ตามเป้าที่วางไว้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจและต่างประเทศมีความกังวลเรื่องเดียวในขณะนี้ คือ อยากให้จัดตั้งรัฐบาลอย่างรวดเร็ว และมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยเร็ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นของประเทศกลับมาเป็นอย่างแรก โดยอยากเห็นการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ซึ่งจากที่เห็น คือ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังหนักแน่น ซึ่งถ้าครม. สามารถฟอร์มทีมได้เร็ว ก็จะเป็นความเชื่อมั่นที่สอง ต่อมาคือ การแถลงนโยบาย ถ้าเป็นพรรคเดิม ๆ การดำเนินนโยบายหลักก็จะยังไปในทิศทางเดิม มีความต่อเนื่อง ก็จะเป็นการช่วยดึงความเชื่อมั่นกลับมาเป็นครั้งที่สาม
อย่างไรก็ดี นายเกรียงไกร มองว่า ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือเรื่องปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจ ดังนั้น มาตรการต่าง ๆ จะต้องรีบออกมาโดยเร็วที่สุด และต้องทำงานร่วมกับเอกชนในการแก้ปัญหาร่วมกัน
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนนั้น มองว่าจะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากแกนนำรัฐบาลยังเป็นพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเจ้าของนโยบาย โดยแนวคิดของนโยบายนี้ตั้งแต่แรกคือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลใหม่มีการทบทวนว่าจะไม่ดำเนินการ หรือปรับลดขนาดโครงการ หรือทำโครงการใหม่ ก็เชื่อว่าต้องมีแนวคิดเดิมที่รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแน่นอน
ส่วนเรื่องความขัดแย้งนั้น มองว่าหากการเมืองนิ่ง มีเสถียรภาพ และมีความต่อเนื่อง ก็จะเอื้อต่อบรรยากาศการลงทุนในไทย และทุกอย่างก็จะดีตามมา
"เป็นกำลังใจให้ฟอร์มรัฐบาลได้โดยเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติกลับมา หลังจากที่ต่างชาติ wait and see มานาน" นายเกรียงไกร กล่าว
ด้าน ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธาน ส.อ.ท. และประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตามที่เข้ามาบริหารประเทศ ส.อ.ท. ก็พร้อมให้การสนับสนุน โดยหลัก ๆ แล้วต้องการเห็นความชัดเจนด้านนโยบาย และความต่อเนื่องของนโยบาย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญมากกว่าว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ส.อ.ท. มองว่าประเทศไทยมีหลายปัญหาต้องเร่งแก้ไข ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน การปรับโครงสร้างพลังงาน การแก้ปัญหาสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่เข้ามาทุ่มตลาด การกิโยตินกฎหมายให้ทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกทางธุรกิจ การเพิ่มขีดความสามารถแรงงาน การสนับสนุนการลงทุน เทคโนโลยี รวมทั้งการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เป็นต้น
ขณะที่นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. ได้ฝากให้รัฐบาลใหม่ช่วยดูแลภาคธุรกิจ SMEs ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น โดยการผ่อนคลายความเข้มงวดในการอนุมัติเงินกู้ นอกจากนี้ ควรป้องกันสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ด้วยการเข้มงวดด่านตรวจสอบให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีแรงงานต่างชาตินอกจาก 3 ชาติที่ไทยกำหนด แห่เข้ามาขายของเป็นพ่อค้า-แม่ค้าในย่านธุรกิจการค้าของไทยมากขึ้น ดังนั้นจึงขอฝากฝ่ายปกครองให้ช่วยเข้มงวดในเรื่องการแย่งงานคนไทยด้วย