นักวิชาการชี้การเมืองฉุดเศรษฐกิจโตต่ำกว่า 3% แนะเตรียมรับภาวะเงินฝืด

ข่าวการเมือง Sunday August 18, 2024 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุศักยภาพในการเติบโตของไทยมีขีดจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองและเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ๆ ยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาเพิ่มขึ้นไปอีก ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองกระทบต่อผู้เดือดร้อนทางเศรษฐกิจที่รอมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำให้นักลงทุนระยะยาวลังเลในการตัดสินใจลงทุนจากปัญหาความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เกิดความไม่ต่อเนื่องของการบริหารและนโยบายของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หลังจากนายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งโดยศาลรัฐธรรมนูญสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ทันทีทำให้ผลกระทบระยะสั้นเบาลง ผลกระทบและความเสียหายทางเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และภาคการลงทุน จะจำกัดลงได้ระดับหนึ่งในระยะสั้นด้วยการตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ความล่าช้าในการพิจารณางบประมาณปี 68 เกิดขึ้นแน่ การขยับโครงการลงทุนภาครัฐและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลต้องช้าออกไป ขณะเดียวกันก็อาจมีมาตรการและนโยบายบางส่วนถูกทบทวนหรือยกเลิกไป เช่น นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต และการให้เช่าที่ดิน 99 ปี เป็นต้น

ปัญหาของการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามบริบทประชาธิปไตยแบบไทยไทยสร้างความเสี่ยงต่อการลงทุนระยะยาว ทำให้เกิดการชะลอตัวของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของต่างชาติ หรือโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบรรษัทชาติก็ตัดสินใจเลือกไปลงทุนประเทศอื่นแทนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง การทุจริตคอร์รัปชัน ความไม่พร้อมของทุนมนุษย์ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

ระบบการเมืองและเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากการที่สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวมาเป็นระบบพหุขั้วอำนาจมากขึ้น การแข่งขันเชิงอำนาจเพื่อครองความเป็นเจ้า (Hegemony) ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในภูมิภาคอาเซียน ย่อมส่งผลต่ออนาคตของประเทศไทยพอสมควร รัฐบาลใหม่ควรมีการจัดวางฐานะทางยุทธศาสตร์ต่อดุลอำนาจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างเหมาะสม การมีนโยบายต่างประเทศอย่างสร้างสรรค์ มุ่งสู่การสันติภาพทั้งภายนอกประเทศและภายในประเทศเป็นความจำเป็นพื้นฐานในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสันติธรรมประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

การทลายขีดจำกัดของประเทศจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองไปพร้อมกัน เดินหน้าปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทั้งมิติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและมิติการสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำควบคู่กันไป การปฏิรูปและปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจก็ยังไม่ใช่หลักประกันเพียงพอที่ทำให้อัตราการขยายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในระยะยาว สำหรับไทยแล้ว การขจัดการแทรกแซงทางการเมืองด้วยอำนาจนอกวิถีทางประชาธิปไตยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนลงอย่างมาก ความมีเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมืองให้มีความมั่นคงและตอบสนองต่อผลประโยชน์ประชาชนมีความสำคัญ เสถียรภาพของระบบการเมืองและระบอบประชาธิปไตยจึงเป็นพื้นฐานต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะยาว

โอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเกิน 3% นั้นเป็นไปไม่ได้แล้วในปีนี้ การเร่งใช้จ่ายงบลงทุนงบประมาณปี 2567 ให้เบิกจ่ายในระดับ 75% ขึ้นไปเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับรัฐบาลรักษาการ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก็ต้องใช้อีกอย่างน้อย 1-2 เดือน อาจทำให้งบประมาณปี 2568 ล่าช้าออกไปบ้างแต่จะดีกว่าสถานการณ์ของงบประมาณปี 2567 หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ที่มีความล่าช้าอย่างมาก คาดว่า ปัจจัยการลงทุนภาครัฐในปีหน้าจะดีกว่าปีนี้มาก ส่วนการลงทุนเอกชนปีนี้จะขึ้นกับสถานการณ์การส่งออกและเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ

ประเทศไทยไม่น่าจะเผชิญปัญหาเงินเฟ้อสูง แต่มีความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับภาวะเงินฝืดมากกว่า การทะลักเข้ามาของสินค้าจีนกดอัตราเงินเฟ้อลงมา ความเสี่ยงทางการเมืองจะกดทับความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนต่อไป ไม่มีเงินเฟ้อจากแรงดึงของอุปสงค์ ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นจากสงคราม ราคาสินค้าเกษตรและอาหารอาจปรับตัวสูงขึ้นบ้างจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่เป็นปัจจัยทางด้านอุปทานทั้งสิ้น วิกฤตหนี้สิน การปิดโรงงานและการเลิกจ้างในบางอุตสาหกรรมจะยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่ปัญหาอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ

ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แรงงานไทยจำนวนมากได้เคลื่อนย้ายจากภาคเกษตรกรรมมายังภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคเกษตรกรรมประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานและแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมมีอายุเฉลี่ยสูงมาก แรงงานข้ามชาติจึงเป็นทางเลือกหลักการผลิตในภาคเกษตรกรรม ภาคประมง ภาคก่อสร้าง นอกจากนี้ ไทยอาจเผชิญภาวะสมองไหล มีแรงงานทักษะสูงความรู้สูง นักวิชาชีพต่าง ๆ ออกไปทำงานและตั้งถิ่นฐานในประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น ถือเป็นการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีที่สวนทาง (The Reverse Transfer of Technology) แทนที่ประเทศไทยจะได้แรงงานทักษะสูง ความรู้สูง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศพัฒนาแล้ว กลับกลายเป็นว่าแรงงานทักษะสูงของไทยอพยพไปตั้งถิ่นฐานในประเทศพัฒนาแล้วแทน ภาวะสมองไหล (Brain Drain) ของไทย นอกจากเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นผลจากความไม่พอใจต่อสภาพสังคม การเมืองและสิ่งแวดล้อมไทยในอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ