แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็น ขบวนการคุกคามต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาเขาพระวิหารที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียอธิปไตยของชาติ รวมถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการปัญหาเศรษฐกิจจนส่งผลให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ได้เกิดขบวนการคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่องจนอยู่ในภาวะอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อสื่อสารมวลชนหลายแขนงและต่อประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งรัฐบาลปล่อยให้มีรัฐมนตรีบางคนที่มีทัศนคติเป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาเข้าร่วมบริหารงานในรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณยังปล่อยให้รัฐบาลกัมพูชายื่นเรื่องจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวโดยปราศจากการเข้าร่วมยื่นบริเวณรอบเขาพระวิหารจากฝ่ายไทย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการเสียอธิปไตยของชาติอย่างชัดเจนดังที่เคยเกิดข้อผิดพลาดในการต่อสู้ทางกฎหมายจนประเทศไทยต้องเสียปราสาทเขาพระวิหารมาแล้วในปี พ.ศ.2505
"ปรากฏหลักฐานในสื่อของกัมพูชาว่า นายจอม ประสิทธิ์ รมว.พาณิชย์ของกัมพูชาให้สัมภาษณ์ว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายที่พยายามโยงกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหารเข้ากับผลประโยชน์ทางทะเลในอ่าวไทยระหว่างการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา หลักฐานดังกล่าวยิ่งทำให้ประชาชนที่รักชาติ รักแผ่นดิน ประจักษ์ชัดว่าขบวนการขายชาติขายแผ่นดินได้เกิดขึ้นจริงแล้ว โดยนักการเมืองใหญ่แห่งระบอบทักษิณอยู่เบื้องหลัง" แถลงการณ์พันธมิตรฯ ระบุ
แถลงการณ์พันธมิตรฯ ยังระบุต่อว่า รัฐบาลหุ่นเชิดนอกจากจะไม่เร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้ว กลับบริหารจัดการเศรษฐกิจของชาติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจนประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งการบริหารจัดการให้ราคาข้าวสารของโรงสีและผู้ส่งออกมีราคาแพงขึ้น ประกาศขึ้นราคาน้ำตาลเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับโรงงานน้ำตาลและนักการเมืองบางคน ราคาน้ำมันแพงขึ้นจนอัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ขณะที่ชาวนาและเกษตรกรต้องออกมาประท้วงรายวันเพราะผลผลิตที่ขายให้โรงงานและพ่อค้ามีราคาตกต่ำอย่างไร้ซึ่งการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาล
"ในสถานการณ์อันเป็นวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ค่าแรงขั้นต่ำกลับขึ้นได้เพียงเล็กน้อยไม่สอดคล้องกับภาวะข้าวยากหมากแพงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงเป็นการตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่ารัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ไม่ได้ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้ง 63 ล้านคนแต่ประการใด แต่กลับหาผลประโยชน์ให้คนเพียงบางกลุ่มแลกกับความเดือดร้อนของคนไทยทั้งชาติอย่างโหดเหี้ยมและอำมหิต" แถลงการณ์ ระบุ
กลุ่มพันธมิตรฯ ได้กำหนดจุดยืนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเห็นว่า การเร่งปฏิบัติการของขบวนการคุกคามและบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยรัฐบาลไม่แยแสและไร้จิตสำนึกในความรับผิดชอบก็ดี ปัญหาการขายชาติขายแผ่นดินบริเวณพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารเพื่อแลกผลประโยชนส่วนตัวจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยก็ดี การฉีกรัฐธรรมนูญโดยหยิบยกประเด็นทางศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมืองก็ดี และความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงที่มุ่งเน้นประโยชน์ของนายทุนผูกขาดหน้าเลือดจนประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าก็ดี ล้วนแล้วเป็นเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดการรัฐประหารทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงมีมติประณามการกระทำของรัฐบาลหุ่นเชิด ซึ่งหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลหุ่นเชิดทั้งสิ้น นอกจากนี้พันธมิตรฯ ขอสนับสนุนในกรณีที่เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ผู้บริโภค ผู้ประกอบการรายย่อย ข้าราชการชั้นผู้น้อยและผู้ยากไร้ ออกมาเคลื่อนไหวเพราะความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--