ครม. ไฟเขียวหลักการแก้ไข กม.จัดสรรที่ดิน ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยมีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดให้ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร ริเริ่มจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินไม่ดำเนินการจัดตั้ง หรือปล่อยปละละเลยให้สาธารณูปโภคของโครงการชำรุดทรุดโทรม หรือได้ละทิ้งหรือหลบหนี หรือเป็นบุคคลล้มละลาย เลิกบริษัทฯ หรือบริษัทฯ ร้างหรือโดยเหตุอื่น

รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการบริหารจัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ให้มีมาตรฐานและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และแก้ไขบทกำหนดโทษสำหรับการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการของผู้จัดสรรที่ดินให้มีอัตราโทษที่สูงขึ้น เพื่อป้องปรามผู้ประกอบกิจการจัดสรรที่ดินให้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน ในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น

สำหรับร่าง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... มีสาระสำคัญ ได้แก่

1. แก้ไขบทนิยาม "การจัดสรรที่ดิน" โดยเพิ่มจำนวนแปลงย่อยเพื่อการจำหน่ายที่เข้าข่ายการจัดสรรที่ดินจาก 10 แปลง เป็น 20 แปลง

2. แก้ไขจำนวนแปลงย่อย ของการแบ่งแยกที่ดินจาก 10 แปลง เป็น 20 แปลง ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องยื่นคำขอทำการจัดสรรที่ดิน เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขบทนิยาม "การจัดสรรที่ดิน"

3. กำหนดเพิ่มผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ร่วมเป็นคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด และให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด มีหน้าที่จัดการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด

4. แก้ไขหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดิน ที่จะต้องบำรุงรักษาสาธารณูปโภคตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต ให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าเดิม รวมทั้งกำหนดให้ผู้จัดสรรที่ดินสามารถใช้หลักประกันอย่างอื่นมาค้ำประกันการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคได้ ในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินเป็นบุคคลล้มละลาย เลิกบริษัท ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินไม่ทำสัญญาค้ำประกันให้กับผู้จัดสรรที่ดิน

5. แก้ไขอัตราโทษของผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมาย ให้มีอัตราโทษสูงขึ้น เป็นต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท (จากปัจจุบันกำหนดให้ต้องระวางโทษปรับวันละ 1,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน)