นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือน ส.ค. ถึงต้นเดือน ก.ย. มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดพายุไซโคลนในมหาสมุทรอินเดีย ส่งผลให้ลมมรสุมที่จะเข้าประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักเป็นบางแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกบริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด และพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกบริเวณ จ. ภูเก็ต ตรัง กระบี่ จึงได้ขอให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยให้เร่งพัฒนาระบบการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพและกระจายข้อมูลต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้ ซึ่ง สทนช. ได้นำร่องพัฒนาระบบแจ้งเตือนผ่าน Line Application ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ด้วยแล้ว สำหรับอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงที่มีปริมาณน้ำในอ่างมากอยู่แล้ว ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่าง และวางแผนการระบายน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ
ขณะเดียวกัน ช่วงเดือน ก.ย.- ต.ค. เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องวางแผนบริหารจัดการกักเก็บน้ำฝนไว้ให้เพียงพอสำหรับใช้ในฤดูแล้งในปีหน้า ในขณะที่ต้องบริหารจัดการน้ำให้เกิดอุทกภัยน้อยที่สุดไปพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญ ดังนั้น จึงได้ขอให้ กรมอุตุนิยมวิทยาร่วมกับ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. จัดทำข้อมูลการคาดการณ์สถานการณ์ฝนที่มีความแม่นยำสูงรวมถึงข้อมูลเปรียบเทียบกับปีที่มีสถานการณ์ใกล้เคียงกันมากที่สุด เพื่อที่หน่วยงานต่างๆ จะนำไปใช้ประกอบการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป