น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ได้ประสบอุทกภัย ว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้พูดคุยกับประชาชนหลายคน ทำให้ทราบถึงความลำบากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ระดับน้ำเริ่มลดแล้ว จึงอยากให้โฟกัสเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนต่อไป เพราะน้ำท่วมแต่ละครั้งนำมาซึ่งความสูญเสีย และยากลำบาก
สำหรับความกังวลว่าน้ำจะท่วมพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ เหมือนในปี 54 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้เขื่อนด้านบน ทั้งเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เพียงพออย่างแน่นอน ฉะนั้นในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ จะไม่มีปัญหาน้ำท่วม อีกทั้งไม่มีเรื่องพายุที่จะเข้ามา ดังนั้นเชื่อว่าพื้นที่กรุงเทพฯ ปลอดภัยแล้ว และในภาพรวมสถานการณ์น้ำปีนี้ไม่น่ากลัวเหมือนปี 54 แน่นอน เนื่องจากปี 54 เป็นปีที่น้ำมาก และมีพายุเข้ามาถึง 5 ลูกในช่วงเดือน ต.ค.54 ขณะที่ตอนนี้มีการคาดการณ์ว่าพายุจะเข้ามาในประเทศ 2 ลูก หรืออาจจะไม่มีเลย
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้เตรียมการรับมือปริมาณฝนที่จะตกมากขึ้นในเดือนก.ย.-ต.ค.ไว้พอสมควร อย่างไรก็ดี ในส่วนของชลประทาน ไม่ได้กังวลใจเหมือนในปี 54 เพราะเคยรับมือกับสถานการณ์มาแล้ว และปีนี้ปริมาณน้ำฝนก็ไม่มากเหมือนปี 54
"หากมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว คงต้องมีการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะจากการลงพื้นที่มาก็เห็นว่าประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วม อะไรที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ ก็ขอให้ช่วยกัน เพราะผลประโยชน์อยู่ที่ประชาชน นอกจากนี้ ก็มีอีกหลายอย่างที่คิดไว้ หากขั้นตอนการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จเรียบร้อย ก็จะพยายามเริ่มลุยงาน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้ได้รับทราบข้อมูลความเสียหายของเขื่อนเก็บน้ำ ซึ่งจะมีการแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อไม่ให้ในอนาคตต้องมาคอยแก้ หรือเสียงบประมาณซ้ำอีก และนี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจจะทำเพื่ออนาคต
"เรามีความตั้งใจแน่นอน ที่จะทำให้ตรงนี้สามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ เพื่อไม่อยากให้เสียงบประมาณที่เล็ก ๆ และบ่อย ๆ" น.ส.แพทองธาร กล่าว