นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น รมว.อุตสาหกรรม ถึงกรณีที่เคยเป็นแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่กลับมาร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า วันนี้เรื่องของบ้านเมืองต้องมาก่อน ตนเชื่อว่าคนที่มีจุดยืนและอุดมการณ์เดียวกันก็อาจมีวิธีที่ต่างกัน ตนในฐานะเลขาธิการพรรคฯ จะต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อเป็นทางออกของประเทศ บางทีอาจเป็นทางออกทางเดียว ซึ่งขอยืนยันในจุดยืนนี้มาโดยตลอดคืออุดมการณ์ในการปกป้องและรักษาสถาบันที่เป็นเสาหลักของประเทศ และขอพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงาน
"เข้าใจเพราะผมมายืนอยู่ในตรงนี้ อาชีพนี้ การตัดสินใจและจะทำอะไรต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยืนยันว่าได้เลือกทางที่ดีที่สุด ณ จังหวะเวลานี้ ภัยคุกคามและความท้าทายของประเทศมันเปลี่ยนไป ตอนนี้เป็นจังหวะสำคัญที่เราต้องร่วมมือกัน...วันนี้ขอให้คิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก มันก็สามารถทำงานด้วยกันได้ เราไม่ได้ลืม เราไม่ได้ลบ แต่เราเลือก" นายเอกนัฎ กล่าว
ส่วนการพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส.นั้น ตนยังพูดคุยกับทุกคนปกติ เข้าใจว่าคนที่ตำหนิมามีความปรารถนาดีก็ต้องรับฟังและปรับปรุงตัว แต่ตลอดชีวิตการทำงานการเมืองที่ผ่านมามีจุดยืน ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
สำหรับกรณีมีข่าวจะไปเป็นพยานให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีมาตรา 112 นั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ไม่ได้ไปโดยพลการ ซึ่งหากไม่ไปก็จะต้องถูกหมายจับ จึงต้องไปทำหน้าที่ตามกฎหมาย เรื่องนี้หากยังมีข้อสงสัย ตนก็จะหาโอกาสชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง