น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดยได้ขอให้รัฐมนตรีทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการชี้แจงและตอบคำถามในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ในช่วงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ พร้อมขอให้ช่วยกันสื่อสารนโยบายที่รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบ ไปยังข้าราชการ และประชาชนให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นต่อนโยบายรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายที่จะแถลงส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นจากแต่ละพรรคการเมือง และมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
พร้อมขอให้ทุกกระทรวง ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบตลอดทั้งปี ซึ่งรัฐบาลก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่า ปัญหาของประเทศทุกวันนี้เป็นปัญหาที่เรื้อรัง และมีความท้าทาย โดยรัฐบาลจะเร่งนำปัญหาต่าง ๆ มาแก้ไข ซึ่งได้กำหนดเป็นนโยบายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยนโยบายเร่งด่วน คือ การปรับโครงสร้างหนี้ การช่วยเหลือ SME การกระตุ้นเศรษฐกิจในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนนโยบายระยะกลาง และระยะยาว คือ การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม นโยบายเสริมสร้างด้านการสร้างสรรค์ และ Soft Power โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม Aviation Hub ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนามนุษย์ โดยในรายละเอียดของแต่ละนโยบาย ขอให้ติดตามจากการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ได้ขอให้รัฐมนตรีทุกคน ดำเนินงานต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยเน้นย้ำมาตลอด รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบของไทยได้ รวมทั้งการดูแลสินค้าเกษตรก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีความเห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน ดังนั้นจึงต้องการให้ ครม.ชุดนี้แก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นและจริงจัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะมีการนัดหารือกับรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ โดยจะหมุนเวียนไปในแต่ละกระทรวง ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามงานที่ได้มอบหมายไปว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น โดยจะประเมินผลการทำงานรัฐบาลในช่วง 3 เดือนแรกให้ประชาชนได้รับทราบ
"การประเมินผลงานจะทำตลอด เราจะทำงานแข่งกับเวลา แต่ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายด้วย ในใจอยากสรุปให้ประชาชนได้ฟังใน 3 เดือนแรก" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนกรณีที่เริ่มเห็นการร้องเรียนในประเด็นต่างๆ เข้ามาบ้างแล้วนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพยายามรับมืออย่างดีที่สุด แต่ก็ไม่อยากจะมีคดี เพราะขณะนี้ลูกยังเล็ก ขณะที่ในรัฐบาล ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ทำงาน และรัฐมนตรีหน้าใหม่ ดังนั้นจะมีการปรึกษาหารือกันอยู่ตลอด โดยเฉพาะการตีความในข้อกฎหมายบางเรื่อง และปรึกษาทุกหน่วยงานให้เกิดความรอบคอบรัดกุม ซึ่งจะมีทีมกฎหมายมาช่วยดูแล
"รัฐบาลอยากทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงาน ซึ่งจากการเปลี่ยนนายกฯ และครม. เราก็พยายามจะยืนยันและตอกย้ำว่า ตั้งแต่คุณเศรษฐา ก็เป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ดังนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมมาแล้ว ก็จะคล้ายเดิม และนโยบายครั้งนี้ ก็ปรึกษาพรรคร่วมเช่นกัน เป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลนายเศรษฐา เป็นความเห็นจากพรรคร่วม ในการปรับแก้ให้เข้าสถานการณ์ และจะทำให้เต็มที่ นโยบายที่รวบรวมไว้ ใช้ตั้งแต่หาเสียงและได้ตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งค่อนข้างเหมือนเดิม และแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าจะทำได้สำเร็จ" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนที่มีคำปรามาสถึงการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าหนีไม่พ้นเงาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะปฏิเสธไม่ได้ในความเป็นพ่อ-ลูกกันนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดี คือสิ่งที่ดี"
ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำทันที จะได้เห็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นภายในเดือนก.ย.นี้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์หรือระยะเวลา ขอมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นคนชี้แจงในรายละเอียด แต่ยืนยันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันที เพราะเป็นเรื่องแรกที่รัฐบาลเน้นย้ำ และจะเดินหน้าผลักดันต่อไป
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ โดยจะทำงานแข่งกับเวลาในทุกนาทีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และจะใช้ความหลากหลายจากพรรคการเมืองมาเป็นจุดแข็งในการทำงาน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เห็นปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในแต่ละพื้นที่ และทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และทันท่วงที โดยรัฐบาลจะไม่รอพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มต้นทำงานทันทีตั้งแต่วันนี้
"มั่นใจว่าจะสามารถประสานพลังทุกคนให้แก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ดิฉัน และ ครม.จะทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องคนไทยทุกคน โอกาสคือสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ และขอยืนยันว่าจะทำให้โอกาสเข้าถึงพี่น้องคนไทยอย่างเท่าเทียม พร้อมที่จะทำงานอย่างแน่วแน่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน และพร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน พร้อมทำงานเป็นทีม และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน เราจะไม่เริ่มพรุ่งนี้ แต่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว