"ศิริกัญญา" ชี้นโยบายรัฐไม่ชัดเจนเหมือน GPS พาหลง หลายเรื่องก๊อปปี้วิสัยทัศน์ "ทักษิณ"

ข่าวการเมือง Thursday September 12, 2024 18:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายคำแถลงนโยบายรัฐบาลว่า นโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ต่างจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน

พร้อมมองว่า นายกรัฐมนตรีควรใช้โอกาสในการแถลงนโยบายเป็นกลไกกู้คืนความเชื่อมั่น และเรียกศรัทธาของประชาชนจากรัฐบาลใหม่ให้กลับคืนมา ควรเป็นสัญญาที่หนักแน่นว่า 3 ปีข้างหน้ารัฐบาลจะทำอะไรบ้าง เมื่อไร อย่างไรที่สำเร็จเป็นรูปธรรมได้ และประชาชนควรสามารถตรวจสอบความคืบหน้าการทำงานได้

"ยังคงเป็น GPS ที่ยังพาเราหลงทาง เพราะใช้คำกว้าง ๆ คำลอย ๆ พูดอีกก็ถูกอีก แต่ทำอย่างไรก็ไม่บอก ชอบใช้คำว่า เร่งรัด แต่ไม่ได้บอกว่า จะเสร็จเมื่อไร คำกว้าง ๆ อย่างเห็น ส่งเสริม ถึง 37 คำ แต่ไม่รู้เลยว่า วิธีการทำอย่างไร มีคำว่า ยกระดับ 17 คำ แต่ไม่รู้ว่า ยกระดับเพิ่มขึ้นไปเท่าไร มันขาดความชัดเจนเป็นตัวเลขที่ประชาชนตามต่อได้"น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
* จับโป๊ะ หลายนโยบายรัฐบาลก๊อปปี้วิสัยทัศน์ "ทักษิณ"

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เมื่อเทียบนโยบายที่เคยหาเสียงไว้กับการเข้ามาเป็นรัฐบาล พบว่า บางนโยบายไม่มีแล้ว เช่น โครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร รวมถึงอยากทราบถึงความชัดเจนของการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 25,000 บาท และการแถลงนโยบายครั้งนี้ คำว่า 10,000 บาทหายไป ทำให้นโยบายไม่เหมือนกับที่หาเสียงไว้ แต่กลับพบว่านโยบายไปตรงกับวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยพูดไว้วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกันถึง 11 ประเด็นจาก 14 ประเด็น ที่เหมือนระดับ Mirror AAA Plus เช่น การปรับเงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มแจกกลุ่มเปราะบางก่อน หรือปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน ด้วยการให้รัฐซื้อหนี้แบงก์มาทำแฮร์คัท หรือรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารมาเป็นของรัฐ เป็นต้น

พร้อมมองว่า การที่นโยบายของรัฐบาลเหมือนกับวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ จะกลายเป็นปัญหาเรื่องความรับผิดชอบ การที่ไม่รู้ว่า ใครเป็นคิดและเขียนนโยบาย หรือเป็นคนวางนโยบาย ทำให้การตรวจสอบยากมาก ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกำหนดนโยบายตัวจริง ไม่รู้ว่าถ้าหากมีปัญหาต้องไปถามใคร หรือเชื่อใครกันแน่

"ยิ่งไปกว่านั้น สุดท้ายถ้าเป็นแบบนี้ การประชุมครม. ก็จะเหลือเพียงแค่การประชุมแบบพิธีกรรม เพราะเรื่องใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ ไม่ได้ถูกตัดสินใจบนโต๊ะประชุมครม. แต่ถูกตัดสินใจมาแล้วจากที่อื่น เช่น ในห้องอาหาร โรงแรมต่าง ๆ ในเซฟเฮ้าส์ และเราไม่รู้เลยว่า ใครคือตัวจริง" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
* จี้นายกฯ เรียกความเชื่อมั่น อยากเห็นเป็นดาวฤกษ์ ไม่ใช่ดาวเคราะห์

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อยากเห็นนายกรัฐมนตรีสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ว่าตัวนายกรัฐมนตรีจะเป็นดำเนินนโยบายตามที่แถลงได้เอง

"วันนี้ขอให้มาตอบด้วยตัวเองในรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียดมาตรการ เป้าหมาย กำหนดระยะเวลาของแต่ละนโยบายว่า ท่านจะทำอย่างไร เพราะเราอยากเห็นนายกรัฐมนตรี เห็นแสงสว่างในตัวเอง เป็นดาวฤกษ์ ไม่ใช่ดาวเคราะห์ อย่างเช่นดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง มันใช้แสงจากพระอาทิตย์ แล้ววันนี้พระอาทิตย์สว่างจ้าเหลือเกิน เราจะไม่เห็นดวงจันทร์เลย"น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ส่วนนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโครงการถึง 7 ครั้งแล้ว โดยแจกเป็นเงินสดก่อนส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไร งบประมาณในปี 68 ก็ยังไม่พอจ่ายเงินให้ครบ 45 ล้านคนอยู่ดี และอยากเรียกร้องให้ประชาชนมาลงทะเบียนภายใน 15 ก.ย.นี้ เพื่อจะได้ทราบตัวเลขที่ชัดเจนว่า กลุ่มเป้าหมายมีกี่คน และต้องใช้เงินเท่าไร ยังแจกคนละหมื่นบาทหรือไม่ แล้วจะแจกเป็นเงินสด หรือดิจิทัลวอลเล็ต

"รัฐบาลใหม่แล้ว คงต้องหยุด และตั้งสตินิดนึงว่า พวกท่านพาโครงการเรือธงใหญ่ขนาดนี้มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ดิฉันเดาว่า มีมือที่มองไม่เห็น ที่คอยสั่งอย่างเดียว จะเอาให้ได้ แต่ไม่รู้ว่าหน้างานเป็นอย่างไร กฏหมายเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว 20 ปีผ่านมาแล้ว ฐานะการคลังของประเทศรับได้แค่ไหน พอไม่ได้คิด ไม่ได้มอง สักแต่ว่าจะทำให้ได้ เจ๊งไม่ได้ เสียหน้าไม่ได้ แต่สุดท้ายหน้าเสียไปแล้ว แล้วตอนนี้เหมือนอาการเมาหมัด มีเท่าไรแจก ๆ ไปก่อน แจกเป็นเงินสดไป ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้า สุดท้ายเครดิตจะไม่เหลือเอา" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จนสุดท้ายเมื่อมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี และไม่มีใครกล้าปล่อยให้เสี่ยงผิดกฎหมายอีก จนทำให้ 1 ปีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา เป็นการสูญเปล่า และพายุหมุนทางเศรษฐกิจอ่อนไปพร้อมกับความเชื่อมั่นของรัฐบาล

น.ส.ศิริกัญญา ยังแนะนำให้รัฐบาลกลับมาให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบราชการ เพื่อให้ศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศเติบโตตามที่คาดหวัง และพิสูจน์น้ำยา หรือศักยภาพของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงคำอภิปรายของฝ่ายค้านว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านได้ทวงถามความคืบหน้านั้น นโยบายบางเรื่องได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การพักหนี้ นโยบายบางเรื่องเตรียมดำเนินการ นโยบายเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะสานต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจะดำเนินการอย่างเข้มข้น ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญนั้น กำลังเร่งรัดไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ ขอให้ทุกพรรคเล็งเห็นประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องของส่วนรวม

"ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของฝ่ายค้านดี เพราะในการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ ก็เคยชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลเหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนเช่นกัน ขออย่าสร้างวาทกรรม อย่าพยายามพูดให้เกิดความเกลียดชังกัน อย่างให้เกิดความแตกแยกในสังคม เพราะขณะนี้ ไม่ใช่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ไม่อยากให้เป็นฝ่านแค้น อยากให้อยู่กันด้วยความเข้าใจ" น.ส.แพทองธาร กล่าว

โดยวันนี้หลังจากได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ได้ลงไปดูเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว จากเมื่อวานที่ประชาชนได้กินข้าวมื้อเดียว แต่วันนี้ได้กินข้าวครบสามมื้อแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ