นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ (12 ก.ย.) ว่า ประชาชนสะท้อนต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติด ก่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ทั้ง 2 ส่วนมีความสำคัญ ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละครอบครัว ใครที่ไม่มีปัญหายาเสพติดก็อาจให้ความสนใจดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลก็ต้องดำเนินการ
ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 สำหรับคนทั่วไป ยังไม่อยากให้มองไปไกลขนาดนั้น อยากให้ติดตามดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสหนึ่งก่อน เพื่อติดตามปัญหาข้อบกพร่อง ยืนยันพยายามทำทุกอย่างให้ครบวงจร
"ขอให้ติดตามการดำเนินงานจากโครงการในเฟส 1 ก่อน หลังเสร็จแล้ว ก็จะดำเนินการเฟส 2 อย่างต่อเนื่องโดยเร็วที่สุด เมื่อไร ก็เมื่อนั้น" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านสร้างวาทกรรม "รัฐบาล 3 นาย" นายใหญ่ นายทุน นายหน้า นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงแล้วอย่างมีเหตุมีผล และสิ่งที่นายกฯ เรียกร้อง คือ คนรุ่นใหม่ต้องไม่ใช้วาทกรรมเสียดสี ด้อยค่า ดังนั้น อยากทำการเมืองแบบใหม่ ควรหลีกหนีวาทกรรมเหล่านี้
"วันนี้ประเทศมีวิกฤตมาก ทั้งอุทกภัย และชีวิตความเป็นอยู่ อยากให้มีการเสนอแนะการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจริงใจ ไม่ควรใช้สำนวนเยาะเย้ยถากถาง แล้วตัดทอนนำเสนอผ่านโซเชียลมีเดียจนเกิดปัญหาความเข้าใจผิด เหมือนที่เกิดขึ้น จึงอยากขอร้องคนรุ่นใหม่ ช่วยสร้างสิ่งที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไปดีกว่า" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าว
ส่วนการฟ้องร้องเพื่อป่วนนายกรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรม มองว่า หากเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ควรให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ ถ้ามัวแต่ไปให้ความสนใจ และหยิบไปขยายความก็จะไปเข้าทางของผู้ที่ปล่อยออกมา พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยก็มี 10 ล้านเสียง เป็นเสียงของประชาชนเช่นกัน
"ฝ่ายค้าน อย่าใช้เสียงที่ได้กว่า 10 ล้าน มาด้อยค่าคนอื่น เพราะทุกสิ่งมีคุณค่า ต้องเคารพและยอมรับในความแตกต่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้พิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำ ดีกว่าพิสูจน์ตัวเองด้วยสำนวนโวหาร" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการเป็นนายกฯ ตัวจริง ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้ง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ใครพูดได้ แต่ประประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าใครหมกมุ่น ไม่สามารถก้าวข้ามในบางเรื่องได้ และยังมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ทำงานได้จนครบเทอมในอีก 3 ปีที่เหลือ