นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า เป็นลักษณะการตอบแบบกว้าง ๆ ส่วนตัวไม่ได้ติดใจวิธีการพูด และบางเรื่องนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องพูดเอง แต่อยากให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบคำถามให้ชัดเจน ดีกว่าจะลุกขึ้นมาพูดในหลักการกว้าง ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ เพราะพรรคประชาชนขอให้ สส.ตั้งคำถามให้ชัดว่าอยากจะทราบข้อมูลในส่วนนี้ จึงคาดหวังมีคำตอบที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งภาพรวมเมื่อวานนี้คำตอบที่ได้ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ จึงรอวันนี้เพราะรัฐมนตรีหลายคนรับปากว่าจะมาชี้แจงเพิ่มเติม
ขณะที่เนื้อหาการอภิปรายของฝ่ายค้านก็เป็นที่น่าพอใจ แต่เป็นห่วงบรรยากาศการประชุมที่มีการประท้วงหลายรอบว่าไม่อยากให้พูดถึงเรื่องในอดีต แต่พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนยอมรับว่ารัฐบาลปัจจุบันสืบทอดนโยบายมาจากรัฐบาลเดิม รวมถึงกังวลกรณีทีต้องเบลอหน้าบุคคลภายนอกในสไลด์ประกอบการอภิปราย ทั้งที่เป็นบุคคลสาธารณะและเป็นอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ผ่านมา การเคร่งครัดไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกมาจนเกินไปทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
"การไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกเลยจะเป็นปัญหา แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับรัฐมนตรีหลายคนว่า ไม่ว่าคำแนะนำของใครก็ตามหากเป็นประโยชน์และรัฐบาลนำมาใช้ก็ไม่ได้มีปัญหา แต่ประชาชนและสมาชิกมีสิทธิจะวิพากษ์วิจารณ์ได้" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
กรณีที่ฝ่ายค้านถูกมองว่าไม่กล้าอภิปรายพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนั้น หากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านจะรู้ว่ามีการตรวจสอบทุกเรื่องมาโดยตลอด แต่ยืนอยู่บนหลักการ หากเป็นเรื่องที่เห็นตรงกันแล้วยังค้านก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
ส่วนนายกรัฐมนตรีขอฝ่ายค้านอย่าเป็นฝ่ายแค้นนั้น หากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านมาตลอด 1 ปี นายกรัฐมนตรีคงจะรู้ว่าฝ่ายค้านไม่ได้ทำตัวเป็นฝ่ายแค้น เพราะไม่รู้ว่าไปทำตัวเป็นฝ่ายแค้นตอนไหน ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนบอกให้นายกรัฐมนตรีพูดแบบนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีเปิดใจให้กว้างและลองฟัง จะพบว่าเรามีทั้งคำแนะนำและข้อติติงที่สามารถนำไปปรับใช้ได้
"ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คนที่พูดเรื่องวาทกรรมบ่อยที่สุดคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงไม่มั่นใจว่า ติดใจหรือมีปมอะไรกับเรื่องนี้หรือไม่ เพราะฝ่ายค้านแทบจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าไม่มีอคติกับเราก็คงจะรับรู้ได้ว่า ข้อติติงหลายอย่างเสนอด้วยความหวังดี และสามารถทำงานร่วมกันได้ในเรื่องที่เห็นตรงกัน" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ในส่วนของการจัดการเวลายังคงอยู่ในกรอบที่ได้แบ่งไว้ แต่เนื่องจากเมื่อวานได้ใช้เวลาอภิปรายนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงเชื่อว่า วันนี้น่าจะปิดการประชุมได้ในช่วงประมาณ 23:00 น.
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หลังจากอภิปรายนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้วมีแผนจะอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในสมัยประชุมสภานี้ แต่จะพิจารณาอีกครั้งเพราะขณะนี้มีเหตุการณ์ใหญ่ ๆ เกิดขึ้นจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากมีเนื้อหาสาระเพียงพอก็พร้อมที่จะอภิปราย