ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติคัดค้านการนิรโทษกรรมตามความผิดมาตรา 112 และการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็น รายมาตราหรือทั้งฉบับ โดยเฉพาะเรื่องการลดมาตรฐานจริยธรรม
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพปชร. ระบุว่า มาตรฐานทางจริยธรรมของพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นมาตรฐานที่ทำที่นักการเมืองพึงมีตามลำดับชั้น ไม่ว่าจะเป็น สส. หรือรัฐมนตรีจะมีมาตรฐานทางจริยธรรมที่เข้มข้นแตกต่างกัน ถ้าบุคคลหนึ่งบุคคลใดมีความบกพร่องทางจริยธรรมก็ไม่ควรจะมาเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่อยากเอาคนที่มีความบกพร่องทางจริยธรรมมาเป็นตัวตั้งแล้วลดมาตรฐานลง ทำอย่างนี้ประเทศก็อยู่ไม่ได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันของศูนย์วิชาการและนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรับข้อมูลจากประชาชนนำไปสู่การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยจะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเงา รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์ กฎหมายที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร การหาข้อมูลส่งต่อให้ สส.นำไปสู่การอภิปราย โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นเรื่องเร่งด่วน และยังไม่ได้รับการดูแลรัฐบาลเท่าที่ควร เช่น การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย 57 จังหวัด แต่ยังขาดการดูแลและเยียวยาจากรัฐบาล
"แม้จะมีการจัดสรรงบประมาณแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท แต่ยังไม่มีเม็ดเงินลงไปถึงมือประชาชน ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกันอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่รอไว้ก่อน หรือรอไปวันวัน" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคฯ ต้องการให้การทำงานของศูนย์ดังกล่าวสามารถนำไปกำหนดแนวทางการทำงานของพรรค และยุทธศาสตร์ รวมทั้ง สส.พรรค จะได้นำข้อมูลต่าง ๆ ไปปรับใช้การทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นเสียงสะท้อนให้ประชาชนได้อย่างเข้มแข็ง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในพรรค มีแนวทางการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง โดยศูนย์ดังกล่าวประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่สำคัญเช่น นายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และบุคคลอื่น ๆ ที่สำคัญของพรรค นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการพูดคุยถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของพรรคเพื่อรองรับการรับสมัครสมาชิกพรรคแบบออนไลน์ที่กำลังพัฒนาผ่านกฎและกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้งอีกด้วย