นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศยุติการเดินหน้าผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยในวันที่ 1 ต.ค.67 จะไม่มีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพื่อหันไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยพิบัติและดำเนินการเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"เรื่องนี้จบแล้ว ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องน้ำท่วมและเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน หลังจากนี้จะคุยกัน ตอนนี้ยังไม่คุย ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้สภาฯ ทำหน้าที่อยู่แล้ว เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคอยู่ในสภาฯ อยู่แล้ว กระบวนการก็เดินหน้าไป...วันที่ 1 ตุลาคมนี้ไม่มีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมแล้ว ขอยุติก่อน ยังไม่ได้คิดอะไร ขอห่วงประชาชนก่อน เพราะประชาชนลำบาก" นายภูมิธรรม กล่าว
โดยในที่ 27 ก.ย.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบสถานการณ์อุทุกภัย หลังจากนั้นรัฐมนตรีแต่ละคนจะแยกย้ายกันไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากนี้พรรคเพื่อไทยจะถอยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มองว่าไม่ได้เป็นมาตรการเร่งด่วน แต่การแก้ไขมรดกบาปจากการรัฐประหารจึงคิดว่าจะต้องแก้ไขทั้งฉบับโดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมายกร่างทั้งฉบับ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยถอยก่อนเพื่อดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจที่เร่งด่วน เช่น การแก้ไขเรื่องน้ำท่วม เรื่องปากท้อง และเรื่องยาเสพติดในชุมชน
นายอดิศร กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะคิดเหมือนกัน แต่เมื่อได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทยหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องให้เกียรติกัน
"อยากให้เข้าใจว่ารัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยฟังพรรคแกนนำ โดยเรื่องนี้ก็ริเริ่มโดยพรรคแกนนำเอง แต่เมื่อได้รับฟังความเห็นสาธารณะคิดว่าการแก้ไขเรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่ผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงรับฟังความเห็นดังกล่าว" นายอดิศร กล่าว