ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับพิจารณาวินิจฉัย ในคดีที่นายนพดล สุดประเสริฐ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาตรา 15 วรรคสาม ที่บัญญัติว่า ผู้สมัครมีสิทธิสมัครในกลุ่มตามมาตรา 11 (20) ได้ แม้จะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ หรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานด้านอื่นในกลุ่มอื่น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 วรรคหนึ่ง และวรรคสองหรือไม่
โดยศาลฯ อภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้อง ที่นายนพดล ขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้สิทธิในการยื่นคำร้องไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47(2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าว
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเป็นเอกฉันท์ สั่งไม่รับพิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ พล.ต.ท.กฤตไชย ทวนทอง และนายแดน ปรีชา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), เลขาธิการ กกต. และพวกรวม 8 คน ร่วมกันดำเนินการประกาศรับรองผลการเลือก สว. กรณีออกประกาศ กกต.เรื่อง ผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ลงวันที่ 10 ก.ค.67 ทั้งที่มีเหตุอันควรสงสัยและมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือก สว.ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.67, ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 และระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
การที่ กกต. และเลขาธิการ กกต. ไม่สั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิก การเลือก และสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ทำให้เสื่อมทราม อ่อนแอลง หรือทำลายล้างสถาบันนิติบัญญัติอันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยศาลฯ อภิปรายแล้วเห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริง หรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกร้องทั้ง 8 คนกระทำการใด ๆ อันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ จึงมีมติไม่รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องดังกล่าว