นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงต้องรอการหารือของหัวหน้าและแกนนำพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้าก่อนว่าจะไปทางไหน เดินหน้าถอยหลังอย่างไร วิปรัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประสานเพื่อหารือต้องรอให้ระดับหัวไปคุยกันก่อน ข้างล่างจะได้ไปด้วยกันได้
ส่วนกรณีที่จะปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ในวันที่ 31 ต.ค. 67 อาจส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่ทันพิจารณาสมัยประชุมนี้แล้วหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า แล้วแต่การหารือของหัวหน้าพรรคการเมือง ถ้าตกลงกันได้ แต่หากยังไม่ได้คุยกันก็ต้องรอไปก่อน เพราะมีกฎหมายประชามติ ส่วนจะต้องเปิดสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาเรื่องใดหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตามปกติขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะเสนอมา
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่มีหลายพรรคการเมืองมีแนวโน้มจะถอยการแก้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า หลายพรรคการเมืองเคยมีนโยบายที่บอกกับประชาชนว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีนโยบายซึ่งมีผลผูกพัน อย่างไรก็ต้องทำ แต่ตอนนี้คือมีการแฉลบซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรมีน้ำหนักตามสมควร
ส่วนกรณี สว. มีมติให้กลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น ในการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามตินั้นถือว่าสิ้นหวังหรือไม่ นายนิกร มองว่ายังมีโอกาสอยู่ คือสามารถประเมินว่าหากแก้มาในหลักการเช่นนี้ ต้องกลับมาสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำมายืนยัน ซึ่งตนเชื่อว่าสภาผู้แทนราษฎรจะยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับ สว.แน่นอน เพราะเป็นหลักการใหญ่ ซึ่งหากไม่เห็นด้วยก็จะต้องมีการตั้ง กมธ.ร่วมกัน หลังจากนั้นก็จะต้องกลับเข้าไปสู่การพิจารณาของ สว.ในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็น กมธ.อีก 10 คน ส่วนวันที่ 16-23 ต.ค. กมธ.ร่วมต้องตกลงกันให้ได้ โดยภายในวันที่ 28 ต.ค. สว. จะต้องยืนยันและเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นของกมธ.ร่วม ซึ่งหากทั้ง 2 สภาฯ เห็นด้วยวันที่ 30 ต.ค. ก็จะมีผลและวันที่ 31 ต.ค. สามารถส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ในวันที่ 2 ก.พ. 68 ที่จะมีการเลือกนายก อบจ. ก็ยังทันอยู่ เพราะตอนแรกยังกังวลเนื่องจากเกรงว่า สว.จะดึง
นายนิกร หวังว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยต้องมาร่วมกันทั้ง 2 สภา ต้องยอมถอยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างยืน แล้วก็ไม่ได้อะไรเลย ไม่มีพรรคไหนหรือสภาไหนเสีย มีแต่ประชาชนเสียโอกาส