ปมยื่นศาล รธน. "ทักษิณ" ไม่ยอมติดคุก-ฝักใฝ่ "ฮุนเซน"-ครอบงำ "เพื่อไทย" ขับ พปชร.-สั่งการรัฐบาล

ข่าวการเมือง Thursday October 10, 2024 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ปมยื่นศาล รธน.

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชนหอบเอกสารกองใหญ่เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยสั่งการนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

กรณีที่ 1 นายทักษิณ ได้รับพระราชทานลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี แต่กลับสั่งการพรรคเพื่อไทยใช้อำนาจผ่านกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจเอื้อประโยชน์ให้อยู่ห้องพักชั้น 14 ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว ฝ่าฝืนพระบรมราชโองการ ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เซาะกร่อนบ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์

กรณีที่ 2 ฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯฮุน เซน ผู้นำทางการเมืองของกัมพูชา มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือควบคุมสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯฮุน เซน ให้ประเทศกัมพูชาละเมิดอธิปไตยทางทะเลของไทยในการการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (MOU 2544)

กรณีที่ 3 สั่งการพรรคเพื่อไทยร่วมมือกับพรรคประชาชน (พรรคก้าวไกลเดิม) เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อนายทักษิณ และพวก

กรณีที่ 4 ครอบงำและสั่งการพรรคเพื่อไทยในการเจรจากับแกนนำพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐนตรี เพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนนายเศรษฐาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

กรณีที่ 5 สั่งการพรรคเพื่อไทยขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

กรณีที่ 6 สั่งการให้พรรคเพื่อไทยนำเรื่องที่นายทักษิณที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปเป็นนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา

ในส่วนพยานตนจะใช้รายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งในรายงานเชื่อว่าจะมีรายละเอียด บุคคลหรือพยานเอกสารอื่นที่มั่นคงตามระบบราชการ โดยจะให้ศาลรัฐธรรมนูญ เรียกตัวพยานมาไต่สวน เพราะตามขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญ การไต่สวนมีความพิเศษยิ่งกว่าระบบศาลยุติธรรมเนื่องจากมีอำนาจโดยตรง โดยมีพยานประมาณ 3-4 ปาก แต่ในชั้นยื่นคำร้องยังสงวนชื่อไว้

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ในการยื่นร้องครั้งนี้มีการขอคำปรึกษากับนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในบางประเด็นเนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ มีคุณวุฒิ ส่วนปรึกษากับนักกฎหมายคนอื่นหรือไม่ ตนไม่ขอเปิดเผย

ส่วนกรณีถูกมองว่า รับงานจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร.หรือไม่นั้น นายธีรยุทธยืนยันว่า ไม่เคยพบกับพล.อ.ประวิตร แม้แต่ครั้งเดียว และไม่มีรับงานจากใคร ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด เป็นการทำงานเงียบ ๆ อยู่คนเดียวตั้งแต่ยื่นสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว แต่ได้เล่าให้นายไพบูลย์ ฟังเรื่องจิ๊กซอว์ที่ตนเห็น โดยเฉพาะจากการเห็นการยุบพรรคไทยรักธรรม และพรรคก้าวไกล ซึ่งนายไพบูลย์ ก็มองว่าเป็นไปได้

*อดีต กกต.เตือนอย่ามองไร้น้ำหนัก

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า อย่ามองคำร้องเป็นเรื่องไร้น้ำหนัก เพราะผลงานการร้องในอดีตนั้นรัดกุมด้วยข้อกฎหมายและผูกโยงพยานหลักฐานจนเป็นเรื่องได้ทุกครั้ง

รวมทั้งมีการประเมินจากชนชั้นนำในสังคมรอบใหม่ว่า ส้มไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่ภัยคุกคามใหม่คือคนป่วยไม่จริง ที่ขณะนี้เป็นศูนย์กลางอำนาจในทุกเรื่อง

"จริง ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดตัวด้วยการเขี่ยลูกของไพบูลย์ ให้รอการแถลงข่าวในวันนี้ เพราะลำพังธีรยุทธ์ก็มีแสงในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งแสงจากไพบูลย์หรือพลังประชารัฐ ความหมายที่สื่อได้ในเรื่องนี้ คือ ความร่วมมือกัน และพลังประชารัฐร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อตอบโต้จากการเขี่ยออกจากการร่วมรัฐบาล และตามราวีลุงโดยพระเอกบางคน" นายสมชัย ระบุ

การตอบโต้ของจักรวรรดิจึงบังเกิดขึ้น โดยอำนาจในการทำลายล้างนั้นมิใช่น้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ