จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ได้หอบเอกสารคำร้องและพยานหลักฐาน 5,080 แผ่นเข้ายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยสั่งการนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 รวม 6 ประเด็นด้วยกันนั้น
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ได้ออกมาบอกใบ้ก่อนหน้านี้ให้จับตาวันที่ 10 ต.ค.67 ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่มากของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายธีรยุทธ ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งนายธีรยุทธ ไม่เคยเจอกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ซึ่งตนก็พูดไปตามเท่าที่รู้มาว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรต่าง ๆ
"การที่นายธีรยุทธไปร้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคไม่ได้อยู่เบื้องหลัง นายธีรยุทธเป็นทนายอิสระ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหน" นายไพบูลย์ กล่าว
เลขาธิการ พปชร. กล่าวว่า เท่าที่ดูคำร้องถือว่ามีน้ำหนักมากพอ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีการดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายถูกต้อง มีการไปยื่นให้อัยการสูงสุดก่อน และเมื่ออัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการก็มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้น ส่วนตัวมองว่ามีความครบถ้วน มีข้อเท็จจริง มีหลักฐานพยานบุคคลทั้ง 2 กรณี ทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้าและชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าคลิปที่ผิดกฎหมาย โดยพยานดังกล่าวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กังวล เพราะพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่มีแนวคิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ สส.พรรคเพื่อไทยก็มีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีเรื่องการล้มล้างแน่นอน
สำหรับคำร้องการนำเรื่องที่นายทักษิณแสดงวิสัยทัศน์ ไปเป็นนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภานั้น หากรัฐบาลจะสานต่อก็ถือเป็นเรื่องรัฐบาล และหากครอบงำพรรคจริง ก็จะต้องเข้ามาสั่งการที่พรรค แต่ย้ำว่า ไม่ได้มีการครอบงำสั่งการ
ขณะที่คำร้องกล่าวหาสมคบพรรคประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเพื่อไทย ยืนยันมาเป็น 10 ปีว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และย้ำทุกเวทีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนการยื่นคำร้องดังกล่าว จะเป็นหัวเชื้อให้ยื่นยุบพรรคเพื่อไทยในอนาคตหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ระบุว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียด เพราะไม่ได้ติดตามการยื่นยุบพรรค และไม่ให้ความใส่ใจ ไม่ได้ให้ความสำคัญ
ส่วนจะไปเชื่อมโยงกับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมายอมรับได้พานายเนวิน ชิดชอบ ไปเข้าพบนายทักษิณในโอกาสวันเกิดหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ มองว่า นายเนวิน หรือนายอนุทิน จะไปพบนายทักษิณหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับการครอบงำพรรคเพื่อไทย