พ.ต.อ.มนัส นครศรี ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ ยื่นหนังสือร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตัง (กกต.) ไม่ปรับเปลี่ยนชุดคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคำร้องว่าการทำหน้าที่ของผู้อำนวยการการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง กลุ่ม 6 ในการเลือกตั้ง สว.ระดับประเทศ อาจไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมตามที่ได้ร้องคัดค้าน เพราะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดดังกล่าวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเลขาธิการ กกต.
พ.ต.อ.มนัส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อคัดค้านคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.(ทั้งคณะ) เนื่องจากในวันเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ พบว่าผู้อำนวยการเลือกตั้ง สว. และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือก (กปล.) กลุ่ม 6 กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 จึงทำบันทึกเสนอต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบที่ กกต.กำหนด
ต่อมา กกต.มีมติว่ากรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎซึ่งมีหลักฐานพอสมควรหรือมีมูลเพียงพอที่จะสืบสวนต่อไปได้ว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงสั่งให้สืบสวนตามระเบียบ กกต. โดยแต่งตั้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเลขาธิการ กกต. เป็นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งขัดกับหลักกฎหมายวิธีพิจารณาราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 13(1) และมาตรา 16 ถือว่าเป็นเหตุสภาพร้ายแรงและไม่เป็นกลาง
ดังนั้น จึงร้องคัดค้านไปยังประธาน กกต. พร้อมเสนอให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐเป็นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนแทนคณะเดิม ประกอบด้วย (1) กรรมการ กกต.1 คนเป็นประธาน (2) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดี สำนักสอบสวนอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ และ (3) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยได้เสนอหนังสือคัดค้านไป 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 2 ได้แนบหลักฐานบันทึกประจำวันคดีการแจ้งความร้องทุกข์คดีอาญามาตรา 157 ดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ทั้งคณะ) แต่กกต.ก็ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดใหม่ และไม่มีเหตุให้ดำเนินการทางวินัยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เมื่อ มติ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดของ กกต.มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติเป็นเอกฉันท์ตามหนังสือคัดค้านคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน และขอให้ดำเนินการทางวินัยตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงทำหนังสือร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 230 และมาตรา 231 เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองพิจารณาโดยไม่ชักช้าต่อไป
พ.ต.อ.มนัส กล่าวอีกว่าในยื่นหนังสือครั้งนี้ เป็นไปตามประกาศเจตจำนงสุจริตการบริหารงานของ กกต. ที่ยึดหลักความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้เสียรับรู้ข้อมูลข่าวสารการบริหารและการดำเนินการในการปฎิบัติหน้าที่และภารกิจต่าง ๆ ของสำนักงาน กกต