น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอประวัติเวชระเบียนการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ตนยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งกระบวนการจะเป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่ไม่แน่ใจในหลักหรือกฎระเบียบต่าง ๆ ว่า จะเปิดเผยข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าตามหลักกฏหมายสามารถทำได้ ก็ให้ดำเนินการไปตามนั้น
โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ออกมาพูดเรื่องนี้แล้ว ซึ่งตนอยากให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะต้องมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่อยากเข้าไปแทรกแซง อย่างไรก็ดี ไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ ผบ.ตร. เพียงแต่เห็นว่าได้ชี้แจงไปแล้วว่ามีเรื่องของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA )
"ให้ยึดหลักตามกระบวนการว่าต้องทำอะไรบ้าง ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ต้องว่าไปตามนั้น รัฐบาลยินดีให้ตรวจสอบ จะได้ไม่กระทบต่อรัฐบาล" น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลให้ความร่วมมือในทุก ๆ เรื่องก็ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์แน่นอน ตนยินดี และพร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศในโอกาสที่จะเดินทางไปประชุมในเวทีต่าง ๆ และเชื่อว่าไม่กระทบภาพลักษณ์ใด ๆ ในการเดินสายต่างประเทศ เพราะไม่เกี่ยวกัน
ทั้งนี้ จากการเดินสายไปต่างประเทศนั้น เพราะต้องการนำสินค้าไทยไปจำหน่าย และเปิดตลาด เพื่อสร้างโอกาสมากขึ้นแก่สินค้าไทย และหารายได้เข้าประเทศมากขึ้น เพราะการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนยังไม่พอ จะต้องอาศัยการสร้างรายได้ใหม่ ๆ
"ทางเลือกของซอฟพาวเวอร์ หรือสินค้าการเกษตร รวมถึงความมั่นคงทางอาหาร ล้วนแต่เป็นประเด็นที่อยู่ในหัว เพื่อที่จะไปคุยกับทุกประเทศ ในการที่จะเพิ่มโอกาสให้กับไทย" นายกรัฐมนตรี กล่าว