นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประเทศไทยไทยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมากที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบตลาดที่เป็นทางการ โดยรายได้และกิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ได้นับรวมอยู่ในระบบรายได้ประชาชาติ (จีดีพี) ส่งผลให้จีดีพีมีความคลาดเคลื่อนอยู่ไม่น้อย ทำให้การวางแผนทางเศรษฐกิจไม่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
นอกจากนี้องค์การแรงงานระหว่างประเทศยังพบว่าไทยยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบความคุ้มครองสภาพการทำงาน เป็นแรงงานนอกระบบที่ขาดหลักประกันในชีวิตและการคุ้มครองทางสังคม แรงงานเหล่านี้จะอยู่นอกระบบประกันสังคม และไทยยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือกิจกรรมทางสังคมที่ไม่อยู่ภายใต้การอนุญาตของกฎหมาย เป็นเศรษฐกิจนอกกฎหมายจำนวนมาก และในระยะหลังกลุ่มจีนเทาได้เข้ามาประกอบธุรกิจสีดำ ธุรกิจสีเทาขยายกิจกรรมนอกกฎหมายหรือผิดกฎหมายในไทย เช่น ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน ค้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ค้าทาสแรงงาน ค้าบริการทางเพศและเปิดบ่อนการพนัน เป็นต้น
โดยสามารถจำแนกรายได้จากการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกได้เป็น 4 ประเภท
ประเภทที่หนึ่ง รายได้ที่อยู่ในตลาดอย่างเปิดเผยและได้มาอย่างถูกกฎหมาย ตรงนี้คือรายได้จากเศรษฐกิจในระบบและเป็นไปตามกฎหมาย
ประเภทที่สอง รายได้ที่อยู่ในตลาดอย่างเปิดเผยและถูกกฏหมายแต่ไม่ได้ถูกบันทึกหรือรายงานเอาไว้ เช่น กิจการที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ร้านหาบแร่แผงลอย หรือ การทำกิจการเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครัวเรือน เป็นต้น
ประเภทที่สาม รายได้ที่ไม่อยู่ในรูปของตัวเงิน เป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือแรงงานกันในระดับชุมชน
ประเภทที่สี่ รายได้ที่มาจากเศรษฐกิจนอกระบบทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย เช่น การพนัน ค้าประเวณี และ ยาเสพติด
นอกจากนี้ยังมีกิจการหรือธุรกิจที่ผิดกฎหมายแต่เป็นผลมาจากการไม่ได้รับความสะดวกจากระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่หรือไม่ได้รับความสะดวกตามกลไกของรัฐ เช่น รถรับจ้างเถื่อน รถโดยสารประจำทางเถื่อน เป็นต้น เศรษฐกิจนอกกฎหมายมักใช้เงินสด โดยเศรษฐกิจนอกระบบและนอกกฎหมายของไทยมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 50% ของจีดีพี เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มากและติดลำดับต้น ๆ ของโลก
งานวิจัยส่วนใหญ่ที่ทำการศึกษามูลค่าเศรษฐกิจของเศรษฐกิจนอกระบบทำกันในช่วงทศวรรษ 2550 จำเป็นต้องมีการประเมินมูลค่าเศรษฐกิจนอกระบบกันใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุด ซึ่งคาดว่ามูลค่ายังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กลุ่มทุนจีนเทาได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยงานวิจัยของผาสุก พงษ์ไพจิตรและคณะในปี 2543 ได้ศึกษากิจกรรมเศรษฐกิจนอกระบบ 6 กิจกรรม ประกอบด้วย การค้ายาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม การค้าน้ำมันเถื่อน การค้าประเวณี การค้าแรงงานข้ามชาติ และการพนัน มีสัดส่วนประมาณ 13% ของจีดีพี เศรษฐกิจนอกระบบและนอกกฎหมายมักมีขนาดใหญ่และขยายตัวในประเทศกำลังพัฒนามากกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะประเทศเหล่านี้มักมีการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ มีการทุจริตคอร์รัปชันสูง มีติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐมาก เจ้าของบ่อนการพนันผิดกฎหมายบางส่วนสะสมทุนจากธุรกิจพนันและผันตัวเข้าสู่การเป็นนักการเมืองหรือเข้ามามีบทบาททางการเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ได้ประโยชน์จากสินบนมักจะต่อต้านนโยบายการเปิดบ่อนถูกกฎหมายเนื่องจากสูญเสียผลประโยชน์
ทั้งนี้ ขอเสนอยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบที่ต้องมีเป้าหมายให้การมีการบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการในเศรษฐกิจนอกระบบที่มีอุปสงค์และเป็นสิ่งที่สังคมต้องการเข้าสู่ระบบ จะได้มีการเก็บภาษีจากกิจกรรมเหล่านี้ กำกับดูแลเพื่อให้กิจกรรมเกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยควบคุมผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมให้เกิดผลทางด้านบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม
ยุทธศาสตร์ที่หนึ่ง ยุทธศาสตร์เสริมและพัฒนาเศรษฐกิจนอกระบบให้เป็นฐานสนับสนุนเศรษฐกิจไทย เพื่อสร้างรายได้ภาษีกับรัฐบาล สร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้องและประชาชน สร้างอาชีพและตำแหน่งงาน
ยุทธศาสตร์ที่สอง ยุทธศาสตร์บริหารความเสี่ยงเกิดการคุ้มครองทางสังคมและดูแลคุณภาพชีวิตผู้ที่อยู่ในเศรษฐกิจนอกระบบและสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
ยุทธศาสตร์ที่สาม ยุทธศาสตร์บริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบเพื่อลดผลกระทบทางสังคม ปราบปราบธุรกิจผิดกฎหมายและป้องกันภัยต่อความสงบเรียบร้อยทางสังคม
การเปิดให้มีการพนันถูกกฎหมายอาจเป็นนโยบายที่ดีและเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบเศรษฐกิจนอกกฎหมายเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อสามารถดูแลให้การดำเนินการต่างๆต้องป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อสังคมให้ได้มากที่สุด การมี Entertainment Complex จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนหากจะมีคาสิโนใน Entertainment Complex ก็เป็นเอาเศรษฐกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน สามารถเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมได้ และลดการทุจริตคอร์รัปชันติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีการเปิดบ่อนพนันผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การมีคาสิโนต้องระมัดระวังปัญหาทางสังคมและต้องกำกับดูแลให้ดีหลายปัญหาที่อาจตามมาต้องเตรียมรับมือด้วย เช่น หนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น ปัญหาครอบครัวเพิ่มขึ้น ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น เป็นต้น หากกำกับควบคุมปัญหาผลกระทบข้างเคียงจากคาสิโนเหล่านี้ได้ การทำให้การพนันถูกกฎหมายเป็นสิ่งที่สังคมจะได้มากกว่าเสียและเป็นแนวนโยบายที่เหมาะสม
หากสำรวจดูรายได้ Entertainment Complex ที่มีคาสิโนในหลายประเทศ พบว่า มาเก๊ามีรายได้เฉพาะการเล่นเกม 32,000 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ (ลาสเวกัส) 30,000 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์ 12,000 ล้านดอลลาร์ เกาหลีใต้ 9,000 ล้านดอลลาร์ ฟิลิปปินส์ 6,000 ล้านดอลลาร์
กรณีสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรมากก็อาศัยการหารายได้จากสถานบันเทิงครบวงจรที่มีรายได้จากธุรกิจเป็น 4% ของจีดีพี นักท่องเที่ยว 30% ได้ไปเยี่ยมชมสถานบันเทิงครบวงจร ส่วนไทยนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย จำเป็นต้องสร้าง Entertainment Complex หรือไม่เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวหรือไม่ อย่างไรก็ต้องไปพิจารณาให้ดี ส่วนอัตราภาษีคาสิโน ไทยควรจะเก็บอยู่ในช่วง 15-30% (สิงคโปร์เก็บอยู่ 17% มาเก๊าเก็บอยู่ 35%) หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการประมาณ 30-50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยที่ 39 ล้านคนในอนาคต จะทำให้รัฐบาลมีรายได้อยู่ที่ 3-4 หมื่นล้านบาท รายได้ผู้ประกอบการอยู่ที่ประมาณ 5-8 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเปิดให้มีคาสิโนถูกกฎหมายต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นแหล่งในการฟอกเงินหรือเป็นแหล่งของการกระทำผิดกฎหมายและศีลธรรม เป็นหน้าที่ของรัฐและสังคมต้องช่วยกันกำกับดูแลตรงนี้ให้ดี การกำหนดเนื้อหาต่าง ๆ ในกฎหมาย Entertainment Complex ต้องสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและผลกระทบทางด้านสังคม กลไกการกำกับดูแลจะต้องชัดเจน โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและประชาชน ป้องกันการทุจริต จำนวนขนาดและที่ตั้งพื้นที่ของโครงการต้องพิจารณาดูความเหมาะสมให้ครบทุกมิติต้องสอดคล้องกับอุปสงค์ของตลาดเพื่อให้เกิดการลงทุนที่เหมาะสม อัตราภาษีคาสิโนควรเก็บแพงหน่อย เกณฑ์การเข้าใช้บริการคาสิโนของคนไทยต้องเข้มงวด ต้องกำหนดรายได้ขั้นต่ำและอายุของผู้เข้าเล่น กลไกการนำรายได้จากกิจการคาสิโนไปใช้ประโยชน์ต้องมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้