"ทักษิณ" ชี้ช่องออกเหรียญดิจิทัลแบ็คอัพด้วยบอนด์รัฐ-ลดผูกขาดกดค่าไฟ ฟาดพรรคร่วมหนีความรับผิดชอบ

ข่าวการเมือง Friday December 13, 2024 18:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะวิทยากรพิเศษกล่าวในงานสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะมีคนบอกว่าสหรัฐฯ จะจัดการกับไทย เนื่องจากได้เปรียบดุลการค้า เราจึงต้องระมัดระวังเรื่องการขึ้นภาษี

ส่วนที่นายทรัมป์ จะให้ใช้หนี้ด้วยบิทคอยน์นั้นเป็นไปตามกระแสโลก เพราะขณะนี้มีเงินคริปโทฯ ออกมาแล้วหลายสกุล และในอนาคตอาจจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศ วันนี้คนไทยจึงต้องรู้ให้ทันให้ได้

โดยนายกฯ อาจมอบให้กระทรวงการคลังศึกษาการใช้บิทคอยน์ โดยใช้วิธีแซนด์บ็อกซ์ เช่น จ.ภูเก็ต ใช้บิทคอยน์ เพื่อให้คนถือบิทคอยน์แทนใช้เงิน อีกเรื่องที่น่าติดตามคือเหรียญดิจิทัลที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน นายกฯ อาจมอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาการออกเหรียญดิจิทัลที่มีพันธบัตรรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตได้ถึง 3.5% ไม่น่าจะมีปัญหา และปี 69 อาจโตได้ถึง 4.0%

"วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราโดนดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ออกเงินกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเราเยอะมาก เราต้องทำให้จีดีพีเติบโตและลดการขาดดุล เพื่อทำให้หนี้สาธารณะลดลง พรรคเพื่อไทยเราต้องทำให้ได้" นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย งบประมาณของภาครัฐในปีหน้าจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องกดหนี้สาธารณะลงให้ได้ ต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้สูงพ้นจากสถานะรัฐวิสาหกิจ ดึงเอกชนเข้ามาลงทุนแทนภาครัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เราก็ต้องหาทางทำแต่จะทำอย่างไร ถ้ารัฐไม่มีเงิน งบลงทุนมันต่ำก็ต้องให้เอกชนมาลงทุนแทน แต่เอกชนก็ต้องคิดว่าเขาจะทำประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่

"วันนี้เราพูดเรื่องการผูกขาด เรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าของเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลาง ๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้"

นายทักษิณ กล่าวว่า สองวันก่อนมี พ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณ ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ตนเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่าย ๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้รัฐมนตรีค่อย ๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา

"พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริงๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว รัฐบาลเป็นกลไกประชาธิปไตย มีหลายออพชั่น อยากส่งสัญญาให้รู้ว่า วันนั้นไม่สวยเลย วันนี้ที่หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก"

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยแปลกอย่างหนึ่ง คนไม่มีอาชีพมีฐานะดีกว่าคนมีอาชีพ แสดงว่าคนไทยไม่อยากมีเรื่อง ใครหาเรื่องก็ปิดปาก ถ้าสรรพากรได้ยิน ป.ป.ง.ได้ยินก็ไปตรวจสอบ บางคนเมีย 3 ลูก 5 ไม่ได้ทำอาชีพอะไร บางคนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศทั้งที่อาชีพไม่มี บางคนถึงเวลาต้องไปหยอดเหรียญ ถ้าไม่หยอดก็รวน มันพอได้แล้ว ร้องไปร้องมาคนไม่เชื่อมั่นประเทศไทย

"ผมไม่ได้ครอบงำนายกฯ ใครมีลูกสาวจะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็ก มันแพ้ทางกันอยู่ ผมนี่ถูกใช้นะ พ่อทำโน่นให้หน่อย ทำนี่ให้หน่อย เงินเดือน 700 นะ เป็นผู้ช่วยหาเสียงวันละ 300 แต่ตอนนี้งานชุกหน่อย ศรีสะเกษก็เตรียมตัวไว้ เชียงใหม่มีตังค์หรือเปล่า ช่วงเลือกนายก อบจ. อาจจะรวยหน่อย" นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงประเด็นเอ็มโอยู 44 ว่า เป็นการเซ็นร่วมกันระหว่าง รมว.ต่างประเทศไทยกับกัมพูชาในสมัยที่ตนเองเป็นนายกฯ เพื่อคุยกันเรื่องที่เราไม่ได้คุยกัน และเรื่องที่คุยกันไม่ได้ คือเรื่องการลากเส้นเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศที่ไม่ตรงกัน ซึ่งต้องอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องเกาะกูดที่มีคนบอกว่าจะเอาเกาะกูดไปให้เขา คนพูดไม่ได้ดูเนื้อหาสาระ เกาะกูดเป็นของไทยตั้งนานแล้ว อยู่ในสนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ชัดเจนแล้วแต่วิธีลากเส้นของกัมพูชาไม่ถูก เรามั่นใจวิธีเราถูกกว่า แต่สุดท้ายไม่เป็นไร เรามาคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลงว่าคืออะไรกันแน่ MOU แค่วางกรอบการเจรจาเท่านั้น

"วันนี้โวยวายกันใหญ่ ต้องถามว่าพลังงานที่อยู่ในทะเลอีกสัก 20 ปีใช้ไม่ได้แล้ว อีก 20 ปีจะทิ้งทรัพย์สินตรงนี้สัก 4 ล้าน ๆ บาท ถ้าตกลงกันได้ ซึ่งมี 2 ส่วนคือผลประโยชน์ในทะเลและบนบกที่ไม่มีปัญหาทำให้ยังไม่จบต้องคุยกัน การปักปันเขตแดนทุกด้านมีปัญหาหมดแต่เราอยู่ร่วมกันอย่างนี้ เพียงแต่เรื่องเขตแดนมันไม่จบ ต้องคุยกันด้วยหลักสากล เรื่องนี้คือตกลงจะคุยเรื่องที่เรายังไม่ตกลง อย่าเพิ่งโวยวาย ไม่มีใครขายชาติหรอก ถ้าขายคนเฮงซวยพอคุยได้แต่คงไม่มีคนเอา เรื่องบนบกไม่ต้องเถียงจบไปนานแล้วเหลือแต่เส้นทางทะเล แต่วันนี้เถียงกันแทบตายแต่คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ได้สัมปทานเดิม การเป็นเพื่อนดีกว่าเป็นศัตรู แต่หลักการประเทศต้องมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพื่อนแล้วบอกยกประเทศให้เพื่อน อันนั้นมันควายแล้ว" นายทักษิณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ