นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติรับคำร้องกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณ ชินวัตร อยู่รักษาที่โรงพยาบาลดำรวจจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ
"คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้น แล้วเห็นว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอจึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง" นายสาโรจน์ กล่าว
โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 51 โดยให้ดำเนินการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 12 คน ทั้งนี้ หากในชั้นไต่สวนพบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการไต่สวนกับบุคคคลดังกล่าวต่อไป
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ไว้ไต่สวนเพราะประชาชนให้ความสนใจ ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ทุกคน เพราะมีประวัติและผลงานว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต ทำงานตรงไปตรงมา กรมราชทัณฑ์จะไม่มีอคติกับใคร อย่ามองว่าเข้าข้างใคร เป็นการบริหารงานตามกฎหมาย แทบจะไม่ได้ใช้ดุลยพินิจด้วยซ้ำ เพราะกฎหมายได้เขียนไว้ ซึ่งข้อสงสัยว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ จะได้มีหลักฐานทางการแพทย์และเวชระเบียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เคยเห็นหลักฐานดังกล่าวยืนยันว่า มีหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด
"การนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะทำให้ผู้ที่ถูกไต่สวนสามารถส่งข้อมูลและหลักฐานเข้าสู่กระบวนการ เพราะก่อนหน้านี้ติดเรื่องของคน เนื่องจากผู้ป่วยจะมีกฎหมายคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรค หลัง ๆ จึงถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง จากนี้ก็น่าจะนำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการของ ป.ป.ช.ได้ดูเหตุผลและข้อมูล เป็นเรื่องที่ดีที่ทุกอย่างจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่กังวลว่ากรณีนี้จะส่งผลให้หลุดออกจากตำแหน่ง ตนยึดมั่นในข้อเท็จจริงและหลักกฏหมาย ซึ่งนายทักษิณ ก็ถูกควบคุมตามกฎหมาย และยืนยันว่าโรคที่นายทักษิณ ป่วยเกินศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถ้ามีใครไม่พอใจอะไร ให้นำหลักฐานไปให้ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีที่มีข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศนั้นก็ต้องเป็นไปตามกฏหมาย หากใครเห็นว่ากฎหมายไม่ดีต้องมีการแก้ไข ตนยินดีรับฟัง เหมือนกรณีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องการพักโทษทำไมไม่ให้อำนาจรัฐมนตรีพิจารณาแต่ให้เพียงแค่รับทราบ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงเก่า แต่ยืนยันว่านายทักษิณ อยู่ในโรงพยาบาลครบตามจำนวนต้องโทษ ไม่มีชั่วโมงไหนที่ไม่อยู่